นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีการปรับหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้กลุ่มผู้ได้รับบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกันจากรัฐ
เนื่องจากปัจจุบันการจ่ายเบี้ยยังชีพแก่ผู้สูงอายุยังคงยึดหลักเกณฑ์ตามระเบียบคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) และระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 และที่เพิ่มเติม พ.ศ. 2561 ที่กำหนดไม่ให้มีการจ่ายเบี้ยยังชีพซ้ำซ้อนกับประโยชน์อื่น
นางพัชรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา สำหรับกรณีผู้สูงอายุที่รับบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกันจากรัฐ อาทิ ผู้สูงอายุรับบำนาญต่อจากบุตรที่เสียชีวิตและได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุด้วย แล้วองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นฟ้องร้องเรียกเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคืน เนื่องจากไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายข้างต้น
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบต่อผู้สูงอายุจากกรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงได้มีมติให้คืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้กับผู้สูงอายุที่รับประโยชน์ซ้ำซ้อนที่ได้นำเงินมาคืนทางราชการแล้ว จำนวน 28,345 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 245.24 ล้านบาท
รวมทั้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถอนฟ้องหรือระงับการบังคับคดีกรณีที่ได้มีการดำเนินคดีเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ โดยทั้งหมดให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 1 เดือน นับแต่วันที่ ครม. มีมติ