กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง หรือ กอปภ.ก. ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศแจ้งว่า ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคกลางตอนบน
อีกทั้งมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น
โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร และกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้มีประกาศฉบับที่ 36/2565 ลงวันที่ 2 กันยายน 2565 ให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและน้ำท่วมขัง โดยพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ดังนี้
พื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง วันที่ 4 - 10 ก.ย.2565
ภาคเหนือ
1.แม่ฮ่องสอน
2.เชียงใหม่
3.เชียงราย
4.ลำพูน
5.ลำปาง
6.พะเยา
7.แพร่
8.น่าน
9.อุตรดิตถ์
10.พิษณุโลก
11.ตาก
12.กำแพงเพชร
13.สุโขทัย
14.เพชรบูรณ์
15.พิจิตร
16.อุทัยธานี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
17.จังหวัดเลย
18.หนองคาย
19.บึงกาฬ
20.หนองบัวลำภู
21.อุดรธานี
22.สกลนคร
23.นครพนม
24.มุกดาหาร
25.ชัยภูมิ
26.ขอนแก่น
27.มหาสารคาม
28.กาฬสินธุ์
29.ร้อยเอ็ด
30.ยโสธร
31.อำนาจเจริญ
32.นครราชสีมา
33.บุรีรัมย์
34.สุรินทร์
35.ศรีสะเกษ
36.อุบลราชธานี
ภาคกลาง
37.กาญจนบุรี
38.ราชบุรี
39.สุพรรณบุรี
40.นครนายก
41.ปราจีนบุรี
42.สระแก้ว
43.ระยอง
44.จันทบุรี
45.ตราด
46.ปทุมธานี
47.นนทบุรี
48.สมุทรปราการ
49.เพชรบุรี
50.ประจวบคีรีขันธ์
ภาคใต้
51.ชุมพร
52.สุราษฎร์ธานี
53.นครศรีธรรมราช
54.ระนอง
55.พังงา
56.ภูเก็ต
57.กระบี่
พื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ระหว่างวันที่ 5 - 9 กันยายน 2565
ภาคกลาง
1.จังหวัดชลบุรี
2.ระยอง
3.จันทบุรี
4.ตราด
ภาคใต้
5.จังหวัดระนอง
6.พังงา
7.ภูเก็ต
8.กระบี่
กอปภ.ก. จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ กรุงเทพมหานคร รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยโดยติดตามปริมาณที่ตกในพื้นที่แต่ละจุดอย่างใกล้ชิด และเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงที่มีฝนตกหนักและปริมาณฝนตกสะสมจำนวนมากที่อาจส่งผลให้เกิดอุทกภัย สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำ น้ำตก ถ้ำลอด หากมีฝนตกหนักมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัย ให้มีประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่
ในพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์คลื่นลมแรง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกประกาศหรือติดตั้งสัญญาณการแจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลโดยเฉพาะห้ามลงเล่นน้ำและประกอบกิจกรรมทางทะเลด้วยความระมัดระวังในช่วงคลื่นลมแรง
พร้อมทั้งจัดทีมเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย อีกทั้งจัดชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) รวมถึงนำเครื่องมือเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยเข้าประจำจุดเสี่ยงอันตรายและพื้นที่เสี่ยงภัยเพื่อให้พร้อมเผชิญเหตุ และช่วยเหลือประชาชนทันที
ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำทุกหน่วยงานดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอย่างเคร่งครัดสำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศและข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยขอให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
ท้ายนี้ ประชาชนสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน "THAI DISASTER ALERT" และหากความเดือดร้อนจากสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ "ปภ.รับแจ้งเหตุ1784" โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป