สัญญาณเตือนดังลั่น น้ำเขาใหญ่ทะลักโคราชลำตะคองปากช่องเพิ่มต่อเนื่อง 

23 ก.ย. 2565 | 06:13 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ย. 2565 | 13:24 น.

ระดับน้ำคลองลำตะคองที่อ.ปากช่อง โคราช เพิ่มระดับสูง สัญญาณเตือนจุดสะพานขนงพระใต้แผดเสียงเตือนเป็นระยะ กู้ภัยสว่างวิชชาปากช่อง จัดทีมเฝ้าระวังต่อเนื่อง เตือนบ้านเรือนลุ่มต่ำติดริมลำตะคองเก็บของขึ้นที่สูง ติดตามข่าวสารใกล้ชิด

วันที่ 23 ก.ย.2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำในคลองลำตะคอง พื้นที่ ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีน้ำป่าหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ที่อยู่ริมคลองจุดเตือนภัยน้ำท่วม และที่สะพานขนงพระใต้ มีสัญญานแจ้งเตือนดังขึ้นเป็นระยะ ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น เป็น 5 เมตร

 

อาสาสมัครกู้ภัยสว่างวิชชาปากช่องได้จัดรถตรวจการณ์ และตรวจสอบระดับน้ำ ในพื้นที่ ต.ขนงพระ รายงานว่า บริเวณบ้านขนงพระใต้ ขนงพระกลาง ขนงพระเหนือ บ้านบุกระเชด วัดป่าอำนวยผล และ เขต ต.ปากช่อง สะพานบ้านโป่งประทา สะพานขนงพระใต้ ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น เป็น 5 เมตร มีสัญญานแจ้งเตือนดังขึ้นเป็นระยะ และบริเวณสะพานขนงพระเหนือ ระดับน้ำ 3.60 เมตร บ้านขนงพระกลาง ระดับน้ำเสมอตลิ่งในบางช่วง สะพานบ้านโป่งประทุนมีน้ำไหลเร็ว ระดับน้ำยังคงที่ 

ระดับน้ำคลองลำตะคองที่ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง เพิ่มระดับต่อเนื่อง

น้ำจากคลองลำตะคองเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเริอนที่ลุ่มต่ำริมน้ำ

อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนที่อยู่ที่ลุ่มต่ำ ติดริมลำตะคอง เฝ้าระวัง และติดตามข่าวสาร ประกาศ แจ้งเตือนจากทางหน่วยงานราชการ และติดตามข่าวอย่างต่อเนื่อง ตื่นตัวแต่อย่าตื่นตระหนกจนเกินเหตุ

 

โดยกลางดึกวานนี้ เกิดฝนตกหนักนานกว่า 2 ชั่วโมง ในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา  ทำให้เกิดน้ำป่าหลากจากแนวภูเขาเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ไหลทะลักลงมาด้านล่างเข้าท่วมหมู่บ้านน้ำซับ ตำบลไทยสามัคคี  อำเภอวังน้ำเขียว  โซนด้านหลังโรงพยาบาลวังน้ำเขียว มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมตัดขาดจากภายนอกประมาณ 10 หลังคาเรือน 

น้ำป่าเขาใหญ่ทะลักท่วมวังน้ำเขียว

โดยมวลน้ำน้ำไหลหลากตามคลองธรรมชาติเข้าท่วมถนน และหลากเข้าท่วมสะพาน ปิดกั้นเส้นทางเข้าออกหมู่บ้านด้วยกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร

 

ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำมูลนิธิกู้ภัยฮุก 31   เข้าช่วยเหลืออพยพประชาชนจากจุดเสี่ยงขึ้นมาอยู่บนที่ปลอดภัย โดยขึงเชือกนำทาง เดินลุยฝ่ากระแสน้ำ และใช้เรือท้องแบนอพยพชาวบ้าน สิ่งของมีค่าออกมาพักอาศัยภายนอกชั่วคราว ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง จึงปฏิบัติการสำเร็จลุล่วง โดยไม่มีใครได้รับอันตราย