“สรรเพชญ”หนุนไทยเป็นศูนย์กลางการเงิน ดันหาดใหญ่ Financial Hub

07 ก.พ. 2568 | 05:43 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.พ. 2568 | 05:47 น.

“สรรเพชญ” หนุนประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงิน ดันหาดใหญ่เป็น Financial Hub ของภูมิภาค พร้อมเสนอกฎหมายต่อสภาฯ

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนแนวคิดในการผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับสากล พร้อมเสนอให้หาดใหญ่เป็น Financial Hub ของภาคใต้ ชี้ศักยภาพของพื้นที่สามารถดึงดูดนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้เป็นอย่างดี 

ทั้งนี้ เรื่องการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงินนั้น ตนได้ออกมาแสดงความเห็นอยู่หลายครั้งทั้งในสภาผู้แทนราษฎร และการประชุมกับหน่วยงาน หรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด

"หาดใหญ่มีความพร้อมทุกด้าน ทั้งที่ตั้งยุทธศาสตร์ที่อยู่ใกล้มาเลเซีย ระบบคมนาคมที่สามารถเชื่อมโยงการค้าในภูมิภาค และความแข็งแกร่งของภาคธุรกิจและการท่องเที่ยว ผมในฐานะผู้แทนราษฎรของจังหวัดสงขลา มองเห็นโอกาสนี้มาโดยตลอด หากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม ก็จะสามารถทำให้หาดใหญ่ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาคได้ และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยให้แข่งขันในระดับนานาชาติได้" นายสรรเพชญกล่าว

นายสรรเพชญ ยังเน้นว่า การผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงิน เป็นแนวทางที่ถูกต้องในเวลานี้ โดยเฉพาะการผลักดันร่างพระราชบัญญัติศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน โดยการเจาะจงพื้นที่ในจังหวัดสงขลา 

นายสรรเพชญ กล่าวว่าตนกำลังเตรียมเสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเข้าสภาฯ  อันจะเป็นการช่วยสร้างสิทธิประโยชน์ทางภาษี ดึงดูดสถาบันการเงินและบริษัทชั้นนำจากทั่วโลกเข้ามาตั้งสำนักงานใหญ่ในไทย และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการจ้างงานและการลงทุนระยะยาว ซึ่งควรจะต้องมีการระบุสถานที่หรือจังหวัดที่จะผลักดันให้ชัดเจนเพื่อเตรียมการรับมือและสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนได้เข้าใจ

"เราต้องมองไปข้างหน้า และสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็น Financial Hub เช่นเดียวกับสิงคโปร์หรือดูไบ ซึ่งหาดใหญ่สามารถเป็นต้นแบบของศูนย์กลางการเงินระดับภูมิภาค โดยอาจเริ่มจากการเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษทางการเงิน ที่มีมาตรการจูงใจทางภาษีและกฎระเบียบที่เอื้อต่อการลงทุน" นายสรรเพชญ กล่าว

ทั้งนี้ นายสรรเพชญ ยังได้เรียกร้องให้ภาครัฐให้ความสำคัญกับการกระจายการพัฒนาไปยังภูมิภาค เพื่อให้การเติบโตทางเศรษฐกิจไม่กระจุกตัวเฉพาะในกรุงเทพฯ แต่ขยายไปยังเมืองที่มีศักยภาพอย่างหาดใหญ่ เชียงใหม่ และภูเก็ต ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประชาชนในพื้นที่

"การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทางการเงินที่หาดใหญ่ไม่เพียงแต่ช่วยให้ภาคใต้เติบโต แต่ยังช่วยกระจายความเจริญไปยังจังหวัดใกล้เคียง เช่น สงขลา นครศรีธรรมราช และจังหวัดชายแดนใต้ รัฐบาลต้องกล้าที่จะคิดและผลักดันโครงการใหม่ๆให้เกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้ไทยแข็งแกร่งขึ้นในเวทีเศรษฐกิจโลก" นายสรรเพชญ กล่าวปิดท้าย