คานถล่ม “รถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงของ” เหตุเกิดแผ่นดินไหว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ 28 มี.ค. 2568 เมื่อเวลา 13:20 น.  เกิดเหตุแผ่นดินไหววัดขนาดได้ 7.4 ริกเตอร์ ความลึก 10 เมตร จุดศูนย์กลางบริเวณเมืองมันดาเลย์ ประเทศพม่าห่างจากอำเภอปางมะผ้าจังหวัดแม่ฮ่องสอนประมาณ 320 กิโลเมตรแปลงสั่นสะเทือนรับรู้ได้บริเวณประเทศไทยรวมถึงกรุงเทพฯ

ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยาและศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้ติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวอย่างใกล้ชิดและได้รับรายงาน after shock เป็นระยะๆขณะนี้เหตุการณ์ยังไม่สงบและได้รับรายงานความเสียหายในบางส่วน ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานคร
 

ล่าสุดยังพบว่ามีคานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่เด่นชัย- เชียงราย -เชียงของ บริเวณสถานีป่าแดด อ.ป่าแดด จ.เชียงราย ถล่มหลังเกิดแผ่นดินไหวดังกล่าว ปัจจุบันโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย – เชียงราย - เชียงของ ระยะทาง 323 กิโลเมตร วงเงินรวมทั้งสิ้น 72,921 ล้านบาท

สำหรับโครงการดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างแบ่งออกเป็น 3 สัญญา ดังนี้ 

สัญญา 1 ช่วงเด่นชัย-งาว ระยะทาง 103 กิโลเมตร วงเงินงบประมาณ 26,560 ล้านบาท ผลงาน 18.643% เร็วกว่าแผนงาน 4.746 %
 

สัญญา 2 ช่วงงาว –เชียงราย ระยะทาง 132 กิโลเมตร วงเงินงบประมาณ 26,890 ล้านบาท ผลงาน 25.082% ช้ากว่าแผนงาน 6.300%

สัญญา 3 ช่วงเชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 87 กิโลเมตร วงเงินงบประมาณ 19,385 ล้านบาท ผลงาน 20.741% ช้ากว่าแผนงาน 16.704% เนื่องจากติดปัญหาการเวนคืนที่ดิน

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า รฟท. ได้รายงานการตรวจสอบในเบื้องต้น จากที่มีผู้เผยแพร่ภาพความเสียหายของงานก่อสร้างสะพานรถไฟในโครงการทางคู่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ นั้น

ทางโครงการได้ตรวจสอบความเสียหายเบื้องต้นแล้วเป็นคานสะพานที่อยู่ระหว่างการติดตั้งซึ่งยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์

นอกจากนี้ยังพบว่าพื้นที่เกิดเหตุดังกล่าวอยู่ในโครงการฯ สัญญาที่ 2 ช่วง กม. 724+800 อ ป่าแดด จ. เชียงราย เบื้องต้นมีรถยนต์ได้รับความเสียหาย ไม่มีผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ได้แจ้งผู้เกี่ยวข้องทราบและให้ดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดความเสียหายต่อโครงสร้างสิ่งปลูกสร้างในส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย เพื่อความปลอดภัยและลดผลกระทบความล่าช้าต่อโครงการฯ

อย่างไรก็ตามจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่เป็นอันดับแรก พร้อมทั้งกำชับให้มีการตรวจสอบทุกพื้นที่อย่างละเอียด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่ใช้บริการระบบขนส่งทางราง