นายพอล อุทัยชลานนท์ ผู้จัดการใหญ่ แวนทีฟ ประจำประเทศมาเลเซีย ไทย เวียดนาม และพม่า กล่าวว่า แวนทีฟ ประเทศไทย เป็นกลุ่มธุรกิจดูแลไต จาก Baxter Kidney Care ประกาศเปิดตัวบริษัทใหม่ สานต่อความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมและการดูแลไต มุ่งเน้นการเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงผู้ป่วยผ่านผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังและไตวายเฉียบพลัน พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการสร้างการตระหนักรู้ ถึงความสำคัญของไตที่มีผลต่อสุขภาพโดยรวม ลดอัตราการเกิดโรคไต ไปจนถึงผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับโรคไตทั่วโลก ซึ่งในประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคไตติดอันดับ 4 ของโลก มีสถิติผู้ป่วยเรื้อรังกว่า 14 ล้านคน
โดยแวนทีฟได้ลงทุนสร้างโรงงานในประเทศไทยที่จังหวัดระยอง มีกำลังการผลิตถุงน้ำยาล้างไตกว่า 30 ล้านถุงต่อปี สามารถรองรับผู้ป่วยในประเทศและผู้ป่วยครอบคลุมในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ได้ มีส่วนสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไทยราว 2.1 พันล้านบาทต่อปี สร้างานให้บุคลากรคนไทยทั้งทางตรงและทางอ้อมกว่า 3,200 ตำแหน่ง โดยได้ร่วมทำงานกับทั้งภาครัฐและเอกชน
“เรามีความยินดีที่ได้เปิดตัวแวนทีฟในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน ให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลไต ในวันไตโลกในปี 2568 การเปิดตัวแวนทีฟนับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของเรา ในฐานะผู้ผลิตยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อผู้ป่วยโรคไต เราพร้อมมุ่งมั่นในการลงทุนกับนวัตกรรม ผสานความร่วมมือ พร้อมทั้งพัฒนาวิธีการรักษาและบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้ป่วยทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก”
นายพอล กล่าวว่า แวนทีฟได้ขยายโอกาสในการเข้าถึงการล้างไตทางช่องท้องที่บ้านทำงานร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มผู้ป่วย และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย โดยเชื่อมั่นว่าการลงทุนด้านนวัตกรรม พันธมิตรที่แข็งแกร่ง และทีมงานที่ทุ่มเท จะช่วยให้เราสามารถบรรลุพันธกิจและยกระดับการดูแลผู้ป่วยโรคไตได้
แวนทีฟ ประเทศไทย มี 3 กลยุทธ์หลัก เพื่อยกระดับการดูแลรักษาโรคไตในประเทศไทย ได้แก่
1. การลงทุนด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล โดยจะนำเสนอระบบ Telemedicine มี Sharesource ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแห่งแรกที่ช่วยเชื่อมต่อผู้ป่วยกับบุคลากรทางการแพทย์สำหรับการล้างไตทางช่องท้อง (Peritoneal Dialysis – PD) พร้อมแอปพลิเคชัน MyPD เพื่อสนับสนุนผู้ป่วยและทีมที่ดูแลอย่างครบวงจร
นอกจากนี้ ยังมีนวัตกรรมรักษาสำหรับผู้ป่วยวิกฤติ ด้วยวิธีการบำบัดทดแทนไตอย่างต่อเนื่อง และได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรับใช้ พร้อมเปิดตัว PrisMax และ PrismaLung+ ในประเทศไทย ในการรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะบกพร่อง หรือสูญเสียการทำงานของไต และปอด
2.การลงทุนเพื่ออนาคตของประเทศไทย แวนทีฟสามารถผลิตน้ำยาล้างไตได้กว่า 30 ล้านถุงต่อปี ไม่เพียงช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในความต้องการผลิตภัณฑ์ ของผู้ป่วยทั้งในประเทศและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ยังช่วยสร้างมูลค่าเศรษฐกิจให้กับ GDP ของประเทศกว่า 2.1 พันล้านบาทต่อปี และสร้างงานทางตรงและทางอ้อม กว่า 3,200 ตำแหน่งให้กับประเทศไทย และยังคงมุ่งมั่นสานต่อการลงทุน ค้นหาโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการในอนาคตต่อไป
3. ผสานพลังของความร่วมมือ จากการทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สมาคมการแพทย์ และองค์กรผู้ป่วย จะขับเคลื่อนแนวคิดนวัตกรรมและพัฒนาแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุดในการดูแลโรคไตและบำบัดรักษาอวัยวะที่สำคัญอื่นๆ ไม่เพียงเท่านี้ แวนทีฟยังได้ริเริ่มโครงการเพื่อสังคม จับมือกับพันธมิตรในภาคเอกชนอย่าง บริษัท เอสซีจีซี (SCGC) ในการรีไซเคิลถุงน้ำยาล้างไต (Green Nephrology) ให้กลายเป็นกระเบื้องพีวีซี รวมทั้งจัดงานวิ่งการกุศลอย่าง Run for Fund เพื่อระดมเงินบริจาคให้กับผู้ป่วยโรคไต
ด้าน พญ.วัชรี เจริญไพบูลย์ ผู้จัดการฝ่ายการแพทย์ แวนทีฟ ประเทศไทย กล่าวว่า โรคไตมีอยู่ 5 ระยะ เมื่อป่วยถึงระยะที่ 5 จะต้องทำการฟอกไตไปตลอดชีวิต ในประเทศไทยพบมากเกิน 1 แสนคนต่อปี โดยโรคไตเกิดจาดหลายสาเหตุ ไตวายเฉียบพลันอาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือด ยาบางตัว ส่วนโรคไตเรื้อรังมากกว่า 50% เกิดจากโรคความดันและเบาหวาน และในประเทศไทยแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามพีระมิดของผู้ป่วยผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นทุกปี