ตระหนักรู้ "โรคข้ออักเสบในเด็ก" อันตรายร้ายแรงที่ไม่ควรมองข้าม

01 เม.ย. 2568 | 09:48 น.
อัปเดตล่าสุด :01 เม.ย. 2568 | 10:02 น.

ไทยพบผู้ป่วย "โรคข้ออักเสบในเด็ก" อายุน้อยที่สุด 1.5 ปี ชี้อาการผิดปกติหลายอย่างที่ผู้ปกครองต้องสังเกตด้วยตัวเอง ก่อนสายเกินแก้จนเกิดความพิการและเสียชีวิต

นพ. วิรัตน์ ภิญโญพรพานิช แพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทางอายุรศาสตร์โรคข้อและรูมาติสซั่ม โรงพยาบาลเมดพาร์ค (MedPark Hospital) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน โรคข้ออักเสบในเด็ก มักถูกมองข้ามและถูกให้ความสำคัญน้อยมากเมื่อเทียบกับโรคอื่น ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับเด็กผู้หญิงมากกว่าเด็กผู้ชาย ในสัดส่วนประมาณ 3:1 มีส่วนเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อหรือข้อบ่งชี้อื่นที่หาสาเหตุไม่ได้

ขณะเดียวกันก็มีปัจจัยเกี่ยวข้องคือ พันธุกรรม HLA-B27 ซึ่งเพิ่มโอกาสการเกิดโรคมากกว่าคนทั่วไป แต่ในกรณีนี้มักเกิดกับเด็กชายมากกว่าเด็กหญิงในสัดส่วน 2:1 

ตระหนักรู้ \"โรคข้ออักเสบในเด็ก\" อันตรายร้ายแรงที่ไม่ควรมองข้าม

"โรคนี้ไม่มีผลวิจัยมากนัก แต่มีรายงานในประเทศไทยว่า พบผู้ป่วยโรคข้ออักเสบในเด็กอายุน้อยที่สุด 1.5 ปี ขณะที่อายุเฉลี่ยส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 5-16 ปี เป็นโรคที่พบได้น้อยเพราะตรวจคัดกรองไม่ได้เหมือนโรคทั่วไป และเด็กเล็กส่วนใหญ่ไม่รู้วิธีแสดงออก ไม่บ่นเรื่องความเจ็บปวด หรืออาจคุ้นเคยความเจ็บจนชิน จำเป็นต้องใช้ผู้ปกครองสังเกตเห็นอาการด้วยตัวเอง

เช่น เดินกะเผลก ขาบวม ยกตัวอย่างโรงพยาบาลเมดพาร์ค จะตรวจพบประมาณ 4-5 ราย/เดือน และไม่ใช่ผู้ป่วยเด็กไทยเท่านั้น ยังมีเด็กมาจากประเทศเพื่อนบ้านอื่นร่วมด้วย"

อาการโรคข้ออักเสบในเด็ก

ปกติอาการโรคข้ออักเสบในเด็ก รอยโรคจะไม่ชัดเจน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและอาการของแต่ละบุคคล โดยระยะเวลาของโรคนับได้ตั้งแต่ 1 สัปดาห์ต่อเนื่องนานนับปี เป็นโรคเรื้อรังที่รักษาได้เพื่อให้โรคสงบ แต่ไม่หายขาด ผู้ปกครองต้องอาศัยความเข้าใจร่วมกับสังเกตพฤติกรรมของเด็ก ดังนี้

  • มีอาการบวมตามข้อและขา 
  • เดินผิดปกติ
  • ปฏิเสธการเดิน
  • เริ่มเดินไม่ได้ต่างจากเด็กวัยเดียวกัน
  • เจ็บเข่า เจ็บสะโพก ไม่ยอมขยับเข่า หรือขยับช้ากว่าปกติ
  • วิ่งไม่ได้ นั่งพื้นไม่ได้ ทำกิจกรรมทั่วไปในโรงเรียนไม่ได้

ตระหนักรู้ \"โรคข้ออักเสบในเด็ก\" อันตรายร้ายแรงที่ไม่ควรมองข้าม

การรักษาโรคข้ออักเสบในเด็ก

เด็กส่วนใหญ่ตอบสนองต่อการรักษาได้ดี 70-80% โดยการรักษาสามารถทำให้โรคสงบและใช้ชีวิตปกติกได้ด้วย 4 วิธีหลัก คือ

1. การกินยา ใช้ในระยะเริ่มต้นของโรค หากตอบสนองการรักษาได้ดีจึงค่อย ๆ ลดยาและหยุดการใช้ยา เพราะหากใช้ยาบางชนิดต่อเนื่องจะส่งผลเสียต่อระบบการทำงานของตับและไต

2. ฉีดยา กรณีที่มีความรุนแรงของโรคจนไม่สามารถรักษาได้ด้วยยา โดยในกลุ่มชีวภาพ อาจต้องฉีดยา 1 เข็มทุกสัปดาห์ ไปจนถึงทุก 6 เดือน ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเพราะยาฉีดยังไม่มีผลิตในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นยานำเข้าจากต่างประเทศ

3. ทำกายภาพบำบัด การรักษานี้จะร่วมกับการใช้ยา

4. การผ่าตัด วิธีนี้ใช้กับคนไข้ที่มีอาการรุนแรง ป่วยนานเรื้อรัง และรักษาด้วยวิธีอื่นไม่หาย เมื่อมีการผิดปกติของข้อ/พิการ

ผลเสียหากไม่ได้รับการรักษา

สำหรับการตรวจพบโรคข้ออักเสบในเด็กและเข้ารับการรักษาตั้งแต่แรกเริ่ม จะช่วยให้การรักษาเกิดประสิทธิภาพได้ดีกว่าวัยผู้ใหญ่ และหากผู้ปกครองละเลยเมื่อพบความผิดปกติหรือต้องสงสัยว่าอาจป่วยเป็นโรคข้ออักเสบในเด็ก จะส่งผลต่อร่างกายของเด็ก ดังนี้

  • ข้อกระดูกเด็กในวัยเจริญพันธุ์จะถูกทำลาย
  • เดินไม่เท่ากัน หรือขายาวไม่เท่ากัน
  • ม่านตาอักเสบซึ่งสัมพันธ์กับข้อและกระดูก ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการมองเห็น
  • ผลกระทบร้ายแรงที่สุดคือ ทำให้พิการ 

ตระหนักรู้ \"โรคข้ออักเสบในเด็ก\" อันตรายร้ายแรงที่ไม่ควรมองข้าม

นพ.วิรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษา เมื่อผ่านพ้นวัยเจริญพันธุ์หรือผ่านช่วงวัยรุ่นไปแล้วจะเสี่ยงเกิดความพิการ และในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงอาจเสียชีวิตได้ ส่วนที่รักษาจนโรคสงบแล้วก็มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำด้วยปัจจัยกระตุ้นอื่นๆ อาทิ การติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร จากการกิดอาหารดิบ อาหารทะเล เป็นต้น

เรียกได้ว่าโรคข้ออักเสบในเด็ก เป็นอีกหนึ่งโรคที่ทำให้ประชากรเด็กไทยเสี่ยงเกิดความพิการ แต่คนทั่วไปให้ความสนใจน้อยมากแม้พบได้ไม่มากนัก ขณะเดียวกันการรักษาก็ยังคงราคาสูง ระบบสาธารณสุขไทยในปัจจุบันไม่มีโครงการหรือสิทธิครอบคลุมการรักษาเด็กโดยตรงนอกเหนือจากบัตรทอง ไม่มีระบบประกันสังคม หรือกองทุนเฉพาะ

นอกจากนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรคข้ออักเสบในเด็กของประเทศไทย ทั้งโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชนก็มีอยู่ไม่เกิน 10 คน การตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคนี้จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม