ภาวะ MIS-C เป็นภาวะที่ต้องให้ความสำคัญหลังจากที่เด็กๆ หากป่วยจากการโควิด-19 แล้ว เพราะเป็นกลุ่มอาการที่ต้องเฝ้าระวัง กลุ่มโรคที่เกิดจากการมีภาวะการอักเสบในระบบต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นระบบหัวใจ ปอด ไต สมอง ผิวหนัง ตา และทางเดินอาหาร
แม้จะพบได้น้อย แต่ก็เป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งมีอันตรายถึงชีวิต แต่หากได้รับการวินิจฉัยและการรักษาอย่างทันท่วงที ผู้ป่วยมักตอบสนองต่อการรักษาและหายดีได้
6 สัญญาณของอาการแสดงที่ผู้ปกครองต้องสังเกต
สามารถพบอาการแสดงได้ ตั้งแต่เริ่มหายจากโรค หรือตามหลังการติดเชื้อประมาณ 2-6 สัปดาห์ โดยมีอาการที่ต้องสังเกต ดังนี้
- มีไข้ 38 องศาเซลเซียส เป็นเวลานานกว่า 24 ชั่วโมง
- อาการระบบหัวใจ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ จะมาด้วยอาการเหนื่อยง่าย หายใจแรง เหงื่อออก ใจสั่น หน้ามืดวิงเวียน
- อาการทางเดินอาหาร เช่น อาเจียน ถ่ายเหลว ปวดท้อง
- อาการทางเดินหายใจ เช่น เจ็บคอ ไอ
- มีการอักเสบของเยื่อบุต่างๆ เช่น ตาแดง ผื่น
- มีอาการผิดปกติทางระบบประสาท เช่น ชัก สับสน เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
แนวทางการดูแลเด็กๆ หลังติดโควิด
- สังเกตอาการของโรค MIS-C หรือรีบมาพบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ
- ล้างมือบ่อยๆ ให้ใส่หน้ากากอนามัยในเด็กอายุ 2 ปีขึ้นไป
- เด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป ที่มีประวัติติดโควิด ให้ฉีดวัคซีนหลังติดเชื้อ 12 สัปดาห์ นับจากวันที่เริ่มมีอาการป่วยวันแรก หรือในกลุ่มที่ไม่มีอาการนับจากวันที่ RT-PCR หรือ ATK positiveโดยกลุ่มที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีน Covid-19 แนะนำ 2 เข็ม ห่างกัน 8-12 สัปดาห์
- กลุ่มที่เคยได้รับวัคซีนมาแล้ว 1 เข็ม แนะนำให้กระตุ้นเพิ่ม 1 เข็ม(ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนเพิ่ม หากเคยได้รับวัคซีนมาแล้ว 2 เข็ม)
- เด็กที่ได้รับวัคซีนโควิดครบ 2 เข็ม จะช่วยลดโอกาสเกิด MIS-C หรือลดความรุนแรงของภาวะ MIS-C ทั้งอัตราการนอนโรงพยาบาล และการใส่ท่อช่วยหายใจ
- สามารถไปโรงเรียนได้ตามปกติ หลังจากพ้นระยะแพร่เชื้อ หรือกักตัวครบตามที่แพทย์แนะนำ
- แม้จะเคยติดโควิดมาแล้ว ก็สามารถติดเชื้อซ้ำได้ เนื่องจากเชื้อมีการกลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา
- หลังจากหายป่วยสามารถรับวัคซีนตามวัย ได้ตามปกติ
ข้อมูล : โรงพยาบาลพญาไท