นายกฯ สั่งสธ. รับมือผู้ป่วยโควิดอาการหนัก อนาคตอาจต้องฉีดวัคซีนทุกปี

01 ส.ค. 2565 | 03:00 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ส.ค. 2565 | 10:04 น.

นายกฯ สั่งสธ.รับมือผู้ป่วยโควิด อาการหนัก อนาคตอาจต้องฉีดวัคซีนทุกปี กำชับเร่งฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม แม้เคยเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพื่อสร้างภูมิต้านทานแบบลูกผสม ลดความรุนแรงของโรคและการเสียชีวิต

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับกระทรวงสาธารณสุข เตรียมพร้อมระบบรองรับผู้ป่วยอาการหนักต้องเพียงพอและพร้อมดูแลประชาชน หลังอัตราครองเตียงยังคงทรงตัว 

 

พร้อมเน้นย้ำขอทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยลดความรุนแรงของโรค แม้เคยเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 มาก่อนก็ตาม เนื่องจากวัคซีนยังมีความสำคัญช่วยลดความรุนแรงของโรคและลดอัตราการเสียชีวิตได้ 

ทั้งนี้ ข้อมูลสาธารณสุขยืนยันผู้ที่ติดเชื้อและเคยฉีดวัคซีนมาแล้ว หรือติดเชื้อแล้วฉีดวัคซีนจะมีภูมิต้านทานที่ค่อนข้างสูง ที่เรียกว่า “ภูมิต้านทานแบบลูกผสม”

 

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตอาจต้องมีการฉีดทุกปีคล้ายคลึงกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งจะต้องปรับเปลี่ยนให้ตรงกับสายพันธุ์ที่ระบาด และจะมีการฉีดในกลุ่มเสี่ยง และให้ประจำปี เนื่องจากผู้ที่เคยติดเชื้อแล้วก็อาจมีโอกาสติดเชื้อซ้ำได้อีก 

ส่วนข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 วันนี้ ศบค.รายงานว่า 

  • ยอดผู้ป่วยรายใหม่ (รักษาตัวใน รพ.) จำนวน 2,108 ราย 
  • เป็นผู้ป่วยในประเทศ 2,107 ราย 
  • ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 1 ราย 
  • ผู้ป่วยสะสม 2,368,849 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) 
  • หายป่วยกลับบ้าน 2,540 ราย 
  • หายป่วยสะสม 2,369,676 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) 
  • ผู้ป่วยกำลังรักษา 22,710 ราย 
  • จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 879 ราย 
  • เสียชีวิต 19 ราย 

 

อย่างไรก็ตามภาพรวมผู้ป่วยรายใหม่ ผู้ป่วยปอดอักเสบ ใส่ท่อช่วยหายใจ และผู้เสียชีวิตยังทรงตัว โดยกรุงเทพมหานครยังเป็นพื้นที่ที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุดจำนวน 1,566 ราย