ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยผ่านเพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ว่า
“โอมิครอนสายพันธุ์ใหม่ BA.4.6 ที่อาจมาแทน "BA.5" (ตอนที่2)
ในรอบหนึ่งเดือนที่ผ่านมาผู้เชี่ยวชาญสังเกตพบ “โอมิครอน BA.4.6” มีการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage) สูงกว่า BA.5 ในหลายประเทศ
เดือนสิงหาคม 2565 ทั่วโลก พบ BA.4.6 มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage)
เหนือกว่า BA.5 ถึง 24% ในขณะที่เดือนที่ผ่านมา (กรกฏาคม) เพียง 15%
สหรัฐอเมริกาพบ BA.4.6 มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage) เหนือกว่า BA.5 ประมาณ 25%
ประเทศในแถบเอเชีย พบ BA.4.6 มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage) เหนือกว่า BA.5 ถึง 59%
ส่วนประเทศไทยยังไม่พบโอมิครอน BA.4.6
ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐ (U.S. CDC) ได้อัปเดตข้อมูลสัดส่วนโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยประจำสัปดาห์ที่ 27/8/2565
บ่งชี้ชัดเจนว่าสายพันธุ์โอมิครอนใหม่ที่มีชื่อว่า “BA.4.6” น่าจะเอาชนะและเข้ามาแทนที่ “BA.5” ในสหรัฐอเมริกาได้เร็วๆนี้
แม้ว่าโอมิครอน BA.4.6 จะปรากฏขึ้นในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565
แต่ปริมาณผู้ติดเชื้อยังน้อยกว่า 2% ของผู้ป่วยรายใหม่จนมาถึงเดือนกรกฎาคม 2565 จึงค่อยเพิ่มจำนวนขึ้น
ในขณะที่อัตราผู้ติดเชื้อโอมิครอน BA.5 รายใหม่ยังคงเท่าเดิม
จากการรายงานล่าสุดของ CDC จำนวนผู้ติดเชื้อโอมิครอน BA.4.6 รายใหม่ในสัปดาห์นี้อยู่ที่ 7.5% ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมด
แต่ข่าวดีก็คือว่าในอเมริกาตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ และผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในเกือบทุกรัฐลดลง
ดังนั้นที่ต้องเฝ้าจับตาคือโอมิครอน BA.4.6 ซึ่งกำลังจะคืบคลานเข้ามาแทนที่โอมิครอน BA.5 อย่างช้าๆ