"โอมิครอน BA.2.75.2" จ่อระบาดระลอกใหม่ เพราะอะไร เช็คเลย

18 ก.ย. 2565 | 00:54 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ก.ย. 2565 | 07:54 น.

"โอมิครอน BA.2.75.2" จ่อระบาดระลอกใหม่ เพราะอะไร เช็คเลยที่นี่มีคำตอบ หมอธีระเผยผลศึกษาจาก Cao YR และคณะ จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ประเทศจีน

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความ

 

อัพเดตเรื่อง Omicron BA.2.75.2

 

Cao YR และคณะ จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ประเทศจีน ได้รายงานผลการวิเคราะห์สมรรถนะของ Omicron BA.2.75.2 เปรียบเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ

 

พบว่า BA.2.75.2 ดื้อกว่า Omicron สายพันธุ์อื่นๆ อย่างมาก ทั้งในคนที่ฉีด Coronavac 3 เข็ม รวมถึงคนที่ฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อสายพันธุ์ต่างๆ มาก่อนก็ตาม

 

นอกจากนี้ เมื่อดูสมรรถนะในการจับกับตัวรับ ACE2 ของเซลล์ จะพบว่า 
BA.2.75.2 รวมถึงสายพันธุ์ย่อยอื่นๆ ของ Omicron ที่ตรวจพบในปัจจุบันนั้นมีสมรรถนะจับกับตัวรับ ACE2 ได้มากกว่าสายพันธุ์ D614G (ที่เคยเป็นตัวทำให้เกิดระบาดระลอกสองทั่วโลกตอนปลายปี 2563 ถึงต้นปี 2564) 
 

ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า BA.2.75.2 นั้นมีทั้งสมรรถนะการหลบหลีกภูมิคุ้มกัน 

 

และจับกับตัวรับที่ผิวเซลล์ได้มาก จึงมีโอกาสที่จะนำไปสู่การระบาดระลอกถัดไปในอนาคตได้ หากไม่ป้องกันให้ดี

 

"โอมิครอน BA.2.75.2" จ่อระบาดระลอกใหม่

 

Long COVID ในบราซิล

 

Ceron ABC และคณะจากบราซิล ทำการศึกษาเปรียบเทียบอัตราการเกิดปัญหา Long COVID 

 

โดยเก็บข้อมูลจากผู้ป่วยที่มีประวัติติดเชื้อโรคโควิด-19 ในช่วงตั้งแต่กันยายน 2563 ถึงเมษายน 2564 จำนวน 814 คน

 

และคนที่ไม่เคยติดเชื้อโรคโควิด-19 จำนวน 402 คน

 

พบว่า ผู้ที่เคยติดเชื้อโรคโควิด-19 มาก่อน จะมีอัตราการเกิดปัญหา Long COVID ราว 29.6% 

ทั้งนี้ในกลุ่มผู้ป่วย Long COVID พบว่ามีถึง 55.9% ที่กระทบต่อคุณภาพชีวิต
การป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อย่อมดีที่สุด

 

ใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอจะลดความเสี่ยงลงไปได้มาก