รู้จัก" ECMO " เครื่องช่วยชีวิตผู้ป่วยวิกฤต โดย หมอ.รพ.จุฬาฯ

16 ธ.ค. 2565 | 06:39 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ธ.ค. 2565 | 23:32 น.

รู้จัก" ECMO" ปอดเทียม-หัวใจเทียม เครื่องช่วยชีวิตผู้ป่วยวิกฤต เทคโนโลยีขั้นสูง เพิ่มอัตราการรอดชีวิตโดย หมอ.รพ.จุฬาฯ

ECMO หรือที่หลายคนรู้จักกันว่า ปอดเทียม หรือ หัวใจเทียม ถือเป็นเทคโนโลยีช่วยชีวิตที่สำคัญ ใช้พยุงการทำงานของปอดและหัวใจของผู้ป่วยในภาวะวิกฤต สำหรับผู้ป่วยที่ปอดและหัวใจไม่สามารถแลกเปลี่ยนก๊าซในสภาวะปกติได้อย่างพอเพียง ช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตได้ 40-50%  โดย ECMO เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูง มีค่าใช้จ่ายสูง และต้องเป็นการทำงานร่วมกันของสหวิชาชีพที่อาศัยบุคลากรผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ โดยโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้เริ่มใช้เครื่อง ECMO ครั้งแรกในหออภิบาลผู้ป่วยวิกฤตหลังการผ่าตัดหัวใจและทรวงอก (CVT ICU) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546

 

ECMO คือเครื่องมืออะไร


ศ.นพ.รุจิภัตต์ สำราญสำรวจกิจ หัวหน้าสาขาวิชาเวชบำบัดวิกฤต ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้อธิบายถึงการทำงานของเครื่องดังกล่าวว่า ECMO (Extracorporeal Membrane Oxygenation) เป็นเครื่องมือที่ใช้ สำหรับผู้ป่วยที่ปอดและหัวใจไม่สามารถแลกเปลี่ยนก๊าซในสภาวะปกติได้อย่างพอเพียง โดยจะไปเพิ่มระดับออกซิเจน และลดระดับคาร์บอนไดออกไซด์ในกระแสเลือดจากภายนอกร่างกาย

จากสถิติ ใน ELSO registry พบว่าอัตราการรอดชีวิตจากการใช้เครื่อง ECMO กับเด็กแรกเกิดอยู่ที่ 70% ส่วนในเด็กและผู้ใหญ่จะมีอัตราการรอดชีวิตใกล้เคียงกัน คือ 40-50% แต่หากเปรียบเทียบกับผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการช่วยชีวิตด้วยเครื่อง ECMO พบว่าผู้ป่วยจะมีอัตราการเสียชีวิตมากถึง 90% 

ศ.นพ.รุจิภัตต์ สำราญสำรวจกิจ หัวหน้าสาขาวิชาเวชบำบัดวิกฤต ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

ECMO ใช้กับผู้ป่วยแบบใด

 

  • ผู้ป่วยที่มีภาวการณ์ทำงานของหัวใจล้มเหลวชนิดรุนแรง
  • ผู้ป่วยที่มีภาวะหายใจล้มเหลวชนิดรุนแรง 
  • อาการหัวใจล้มเหลวชนิดรุนแรง ร่วมกับ ภาวะหายใจล้มเหลวชนิดรุนแรง

 

ECMO ทำงานอย่างไร มี 3 ระบบ
 

  1. Veno-Arterial (VA) สำหรับกรณีที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวรุนแรง หรือ มีทั้งปอดและหัวใจล้มเหลว โดยเครื่องจะดูดเลือดออกจากเส้นเลือดดำใหญ่ เช่น จากคอในเด็กเล็ก หรือขาในเด็กโตและผู้ใหญ่ และผ่านเครื่องปอดเทียมเพื่อเพิ่มออกซิเจนและช่วยแลกเปลี่ยนแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์กลับเข้าสู่เส้นเลือดแดงใหญ่ส่วนบนหรือส่วนล่าง
  2. Veno-venous (VV) สำหรับกรณีที่มีภาวะหายใจล้มเหลวชนิดรุนแรง โดยเครื่องจะดูดเลือดออกจากเส้นเลือดดำใหญ่ผ่านปอดเทียม และเข้าสู่หลอดเลือดดำใหญ่อีกครั้ง
  3. Arterial-venous สำหรับกรณีที่มีภาวะหายใจล้มเหลวชนิดรุนแรงปานกลาง ซึ่งจะใช้แรงดันจากด้านหลอดเลือดแดงโดยไม่ต้องใช้เครื่องดึงผ่านปอดเทียม

 

ECMO ไม่สามารถใช้ได้กับผู้ป่วยกลุ่มใด

 

  • ผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย
  • ผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจมาเป็นระยะเวลานาน 
  • ผู้ป่วยที่มีภาวะ Aortic Regurgitation/Dissection 

 

ECMO กับผลข้างเคียง

 

  • เลือดออกในสมอง
  • ภาวะขาดเลือดไปเลี้ยงที่ขา (ในกลุ่มผู้ป่วยที่ใช้ ระบบ Veno-Arterial ECMO)
  • ภาวะเม็ดเลือดแดงแตก
  • ภาวะติดเชื้อ
  • ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ เป็นต้น 

ซึ่งแพทย์และพยาบาล ต้องเฝ้าระวังและดูแลผู้ป่วย อย่างใกล้ชิด ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง