โควิดสายพันธุ์ XBB น่ากลัวแค่ไหน แพร่ระบาดเร็วจริงหรือไม่ กลุ่มไหนเสี่ยงที่สุด กำลังเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
หลังจากที่ประเทศสิงคโปร์มีการระบาดของสายพันธุ์ XBB เป็นอย่างมาก และมีการเดินทางไปยังประเทศอื่น
ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana โดยมีข้อความระบุว่า
ไวรัส XBB ที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นในสิงคโปร์ดูสอดคล้องกับจำนวนเคสที่สูงขึ้นอย่างชัดเจน
เดือนที่แล้ว (17/9/65) จำนวนเคสทั้งหมด 1,702 คน ข้อมูลล่าสุด (14/10/65) คือ 8,763 คน
โดยเมื่อ 3 วันก่อนหน้านี้แตะระดับที่ 11,399 ราย
ภายใน 1 เดือนที่ผ่านมาจะเห็นแนวโน้มของผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างค่อนข้างชัดเจน
ซึ่งเป็นสัญญาณว่าการระบาดระลอกใหม่กำลังเกิดขึ้น
เมื่อวิเคราะห์ผู้ติดเชื้อจะเห็นชัดว่า กลุ่มที่ติดเชื้อเยอะที่สุดคือกลุ่มอายุ 20-39 ปี
ซึ่งเป็นประชากรที่น่าจะ active ที่สุด และ มีโอกาสติดเชื้อจากกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
ในขณะที่กลุ่มเสี่ยงคือ กลุ่มผู้สูงอายุคิดเป็นประมาณ 10% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด คิดเป็นจำนวนไม่มากเมื่อดูในบริบทของผู้ติดเชื้อ
แต่ถ้าดูข้อมูลผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
จะเห็นภาพชัดเจนว่า กลุ่มผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่จำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาล
ข้อมูลในวันที่ 14/10/65 ผู้สูงอายุที่ติดเชื้อ 809 คน มี 321 คน หรือ เกือบ 40% มีการติดเชื้อด้วยอาการที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
และในจำนวนนั้นมี 34 คน ต้องใช้ Oxygen ซึ่งตัวเลขนี้จะแตกต่างจากกลุ่มหนุ่มสาวอย่างชัดเจน
ถึงแม้จะเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดที่ติดเชื้อ แต่มีเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพียงแค่ 26 คน และไม่มีใครอาการหนักถึงต้องใช้ Oxygen
เนื่องจากผู้ป่วยทั้งหมดคงไม่ได้ติดเชื้อ XBB ทุกคน แต่จำนวนเคสที่สูงขึ้นสอดคล้องกับไวรัสที่กระจายตัวมากขึ้นในประชากร
ทำให้อนุมานได้ว่า XBB จะมีความสามารถในการแพร่กระจายเป็นวงกว้างจนเกิดการระบาดระลอกที่ชัดเจนขึ้น
"ไวรัส XBB" หนีภูมิคุ้มกันได้ดี และแพร่กระจายได้ไวขึ้นกว่าสายพันธุ์ BA.5 ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เดิม
แต่ความรุนแรงของโรคดูเหมือนจะไม่ได้มีผลกระทบในประชากรทั่วไปที่มีสุขภาพแข็งแรงและมีภูมิคุ้มกันจากวัคซีน
แต่ถ้าไวรัสเข้าไปส่งผลในกลุ่มเปราะบาง เช่นกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง และตกไวกว่าปกติ จะสามารถเห็นความรุนแรงของไวรัสดังกล่าวได้