องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยวันนี้ (18 เม.ย.) ว่า ไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ XBB.1.16 เป็นไวรัสที่ต้องจับตามอง หลังพบการแพร่ระบาดใน 29 ประเทศ โดยอัตราผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นอย่างมากใน อินเดีย
ผลการศึกษาพบว่า ไวรัสสายพันธุ์ XBB.1.16 ซึ่งตรวจพบครั้งแรกในเดือนมกราคม 2566 และอยู่ในการสังเกตการณ์ขององค์การอนามัยโลกตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. มีอัตราการขยายตัวที่มากกว่าสายพันธุ์ XBB.1.5 แต่มีความสามารถในการหลบหลีกภูมิคุ้มกันเท่ากับสายพันธุ์ XBB.1.5
WHO เปิดเผยว่า ยังไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับความรุนแรงของไวรัสสายพันธุ์ XBB.1.16 และไม่มีการเปิดเผยรายงานเกี่ยวกับความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นของไวรัสที่มีการตรวจพบในขณะนี้ แม้บางประเทศรายงานถึงอัตราการรักษาตัวในโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้น หลังมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้น
ทางด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) เปิดเผยว่า ไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ XBB.1.16 กำลังเพิ่มการแพร่ระบาดในสหรัฐอเมริกาด้วยเช่นกัน โดยไวรัสสายพันธุ์ XBB.1.16 มีสัดส่วนการแพร่ระบาดมากกว่า 7% ของไวรัสโควิด-19 ทั้งหมดที่มีการตรวจพบจากผู้ป่วยในสหรัฐ โดยสูงกว่าระดับ 4% ที่มีการตรวจพบก่อนหน้านี้
ผู้เชี่ยวชาญเปิดเผยว่า ในปัจจุบัน ไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ XBB.1.5 ยังคงเป็นไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์หลักในสหรัฐ แม้สัดส่วนการแพร่ระบาดได้ลดลงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่สายพันธุ์ XBB.1.16 และสายพันธุ์ XBB.1.9.2 อาจขึ้นมาแทนที่สายพันธุ์ XBB.1.5 ได้ในอนาคต
ทำความรู้จักโควิด XBB.1.16
อัพเดตสถานการณ์โควิดทั่วโลก
ทั้งนี้ โควิดยังคงเป็นโรคระบาดที่มีการแพร่กระจายในหลายประเทศทั่วโลก โดย จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดโดยรวมทั่วโลกขณะนี้ (18 เม.ย.) ทะลุ 685,000,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้แล้วกว่า 6,840,000 ราย
Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมทั่วโลกมีจำนวน 685,695,401 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ระดับ 6,842,676 ราย
สถิติล่าสุดพบว่า
นอกจากนี้ สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (1,158,160) ตามมาด้วยบราซิล (700,811) อินเดีย (531,141)