อย่าหาทำ “ฟอร์มาลีน” กิน ดม สัมผัส เสี่ยงมะเร็ง

10 ธ.ค. 2565 | 05:50 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ธ.ค. 2565 | 12:54 น.

กรมการแพทย์ย้ำ “ฟอร์มาลิน” เป็นสารพิษ สาเหตุของมะเร็งเม็ดเลือดขาว-มะเร็งโพรงจมูก ทั้งกิน ดม สัมผัส ล้วนอันตราย

ข่าวการลักลอบผลิตวัตถุดิบชิ้นส่วนเนื้อสัตว์แช่ในถังน้ำผสม "ฟอร์มาลิน" ส่งขายร้านหมูกะทะและร้านอาหารอีสาน ทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลถึงการบริโภค “หมูกระทะ” เมนูยอดฮิตที่นิยมทั้งแบบนั่งรับประทานที่ร้านและซื้อแบบชั่งกิโลตามตลาดสดนั้น หลายคนอาจมองข้ามถึงอันตรายของ “ฟอร์มาลิน”

 

นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า  สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสารฟอร์มาลินว่า ฟอร์มาลีน เป็นสารพิษชนิดหนึ่งประกอบด้วยก๊าซฟอร์มาลดีไฮด์ (formaldehyde) ละลายน้ำด้วยความเข้มข้น 37% โดยน้ำหนัก และมักผสมเมทานอลประมาณ 10-15% สารฟอร์มาลีนมีสถานะเป็นสารละลาย ไม่มีสี มีกลิ่นฉุนรุนแรง

 

คุณสมบัติแตกต่างกันตามความเข้มข้นฟอร์มาลดีไฮด์ในน้ำและอัตราส่วนผสมของเมทานอล มีการนำฟอร์มาลีนมาใช้ประโยชน์หลายด้าน เช่น ใช้เป็นส่วนผสมของน้ำฆ่าเชื้อและน้ำยาทำความสะอาด ใช้ในอุตสาหกรรมกระดาษ อุตสาหกรรมสิ่งทอ และอุตสาหกรรมการผลิตสี นอกจากนี้ในทางการแพทย์มีการนำฟอร์มาลีนมาใช้สำหรับรักษาสภาพร่างกายของศพไม่ให้เน่าเปื่อย อย่างไรก็ตามไม่อนุญาตให้นำฟอร์มาลีนมาใช้ในการถนอมอาหาร

 

ด้านนายแพทย์สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า ประเทศไทยจัดให้สารฟอร์มาลดีไฮด์หรือฟอร์มาลีนเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 2 ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 หากผลิต นำเข้า หรือมีไว้ครอบครองต้องขึ้นทะเบียน และเป็นสารห้ามใช้ในอาหารตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 151 (พ.ศ. 2536)

อย่าหาทำ “ฟอร์มาลีน” กิน ดม สัมผัส เสี่ยงมะเร็ง

เรื่อง กำหนดวัตถุที่ห้ามใช้ในอาหาร หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมีการเฝ้าระวัง ตรวจติดตามการปนเปื้อนของฟอร์มาลดีไฮด์ในอาหารอย่างต่อเนื่อง จากรายงานขององค์การวิจัยมะเร็งนานาชาติ (International Agency for Research on Cancer; IARC) จัดให้สารฟอร์มาลดีไฮด์หรือฟอร์มาลีนเป็นสารก่อมะเร็ง Group 1 ซึ่งหมายถึงมีข้อมูลยืนยันแน่ชัดแล้วว่าสารชนิดนี้เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์

 

โดยข้อมูลงานวิจัยที่ศึกษาในผู้ที่สัมผัสสารนี้ในปริมาณสูงอย่างต่อเนื่องยาวนาน เช่น คนงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง พบว่าสารนี้เป็นสาเหตุของมะเร็งเม็ดเลือดขาว (myeloid leukemia) และมะเร็งโพรงจมูก เป็นต้น

 

อย่างไรก็ตามผลกระทบต่อสุขภาพจากการสัมผัสสารฟอร์มาลดีไฮด์/ฟอร์มาลีนนั้นเกี่ยวข้องกับหลายปัจจัย เช่น ปริมาณที่ได้รับเข้าสู่ร่างกายได้ทั้งจากการรับประทาน การหายใจ และทางผิวหนัง รวมถึงระยะเวลาที่สัมผัส สำหรับอาการเฉียบพลันจากการสัมผัสสารในความเข้มข้นระดับต่ำอาจทำให้เกิดอาการแพ้ต่าง ๆ เช่น การระคายเคืองในระบบทางเดินอาหาร คลื่นไส้อาเจียน อาการแสบจมูก ปวดศรีษะ ระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ เกิดผื่นคัน ผิวหนังคล้ำดำ มีอาการแสบคันตามผิวหนัง เป็นต้น