"จิณณ์ เวลบีอิ้ง" แนะสร้างสังคม Longevity หนุนวัยเกษียณยัง Working

นายทิมโมตี้ อีเมน เลิศสมิติวันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ เปิดเผยผ่าน เวทีสัมมนา  “THANX Forum 2023 : Health & Wellness Sustainability” หัวข้อ “Health & Wellness Destination โอกาส ศักยภาพไทย” ว่า  ถ้าประเทศไทยอยากเป็น “เมดิคอลฮับ” เราค่อนข้างเป็นห่วงเรื่องผู้สูงอายุ  เพราะภาพรวมของสังคมผู้สูงอายุประเทศไทยพบว่ามีการเติบโตของผู้สูงอายุติดอันดับ 1ใน 3 ของโลก และเป็นประเทศแรกที่จะกลายเป็น hyperaged society 

ปัจุบันใน Southeast Asia มีประชากรผู้สูงอายุเกิน 60ปี ประมาณ 10% แต่เมืองไทยมีจำนวนผู้สูงอายุเกือบ 20% หรือเท่าตัวของ Southeast Asia ดังนั้นเราอยากให้คนไทยและสังคมคิดถึง Longevity ไม่ใช่คิดถึงแค่ Aging เพราะตอนนี้อายุเฉลี่ยของคนอยู่ที่ประมาณ 88 ปีนั่นหมายความว่าปัจจุบันคนอายุยืนมากกว่าเมื่อก่อนถึง 22 ปี ที่อายุเฉลี่ย 55 ปี เพราะฉะนั้นสังคม วิธีคิดและวิธีการใช้ชีวิตควรจะเปลี่ยนแปลง 

คุณทิมกล่าวต่อไปว่า ประชากรสูงอายุของเมืองไทยตอนนี้ 41% ไม่มีเงินเกษียณ ขณะที่ 43% ของคนอายุ 40 ปีขึ้นไปเป็น informal sector ที่ไม่มีสวัสดิการ และตัวเลขที่ค่อนข้างตกใจคือ 29% ของคนอายุเกิน 60 ปียังมีหนี้สินอยู่ ขณะที่ 70% ของอาคารในไทยไม่ได้เป็น elderly-friendly ซึ่งสวนทางกับจำนวนผู้สูงอายุที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นหากประเทศไทยไม่สามารถสร้าง Aging gracefully ได้โอกาสจะเกิด aging risk มีสูง

เจ้าหน้าที่ของรัฐควรเริ่มประชาสัมพันธ์เรื่องสุขภาพจิตโดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีปัญหาในเรื่องการสร้างความสัมพันธ์หลังเกษียนทำให้เกิดความเครียดและซึมเศร้ามากขึ้น ดังนั้นควรส่งเสริมให้ผู้สูงอายุยังคงมีความรับผิดชอบ มีหน้าที่ มีความ Active ไม่ใช่อยู่บ้านไปวัน ๆ

ทั้งนี้ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือTHG ได้หา solution สำหรับผู้สูงอายุ จนเกิด “โครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ” เป็นบ้านสำหรับผู้สูงอายุที่มี facility ครบ โครงการนี้ผ่านการคิดและปฏิบัติ จนประสบความสำเร็จมาแล้วกว่า 3 ปี ในส่วนของการดูแลด้านสุขภาพโครงการนี้ไม่เป็นรองใคร

ส่วนซอฟต์แวร์อย่างน้อยทุกวันลูกบ้านจะมีกิจกรรมให้เข้าร่วมอย่างน้อย 2 กิจกรรม ซึ่งลูกบ้านที่เป็นผู้สูงอายุสามารถเลือกกิจกรรมที่อยากทำได้ ไม่ว่าจะเป็น ปลูกผัก ตีกล์อฟ ทำอาหาร โยคะ เต้นแซมบ้า เป็นต้น และในแต่ละเดือนจะมี Fun Trip ออกไปเที่ยว ไปทำกิจกรรมนอกโครงการอีกด้วย

“ลูกบ้านผู้สูงอายุที่เข้ามาอยู่ในโครงการใหม่ๆจะไม่ค่อยออกไปนแกห้องและเก็บตัว แต่ตอนนี้เขาเริ่มออกมาจากห้องเพื่อทำกิจกรรม พบปะเพื่อนในสังคมเดียวกัน ทำให้มีความสุขขึ้น นอกจากนี้เรายังมีหมอผู้เชี่ยวชาญ นักจิตวิทยาเข้ามา dinner talk มาสัมผัสลูกบ้านและมีกิจกรรมต่างๆเข้ามาเสริม ส่วนผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลจากแพทย์เรามีโรงพยาบาลธนบุรีบูรณาออนไซต์  52 เตียง และโรงพยาบาลธนบุรีประชาอุทิศ 275 เตียงสำหรับรองรับผู้ป่วยติดเตียงด้วย

พ๊อยซ์ของเราคือ health aging lifestyle ของผู้สูงอายุ จะเป็นภาระของประเทศชาติในอนาคตถ้าเราไม่ Re Think คนวัยทำงานเริ่มน้อยลงเรื่อยๆสวนทางจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น คนส่วนน้อยไม่สามารถแบกคนก้อนใหญ่ได้ นั่นหมายความว่าเราจะต้องเก็บคนสูงอายุที่มีแรง มีความสามารถในการทำงานไว้ ไม่ใช่มองว่าคนที่อายุ 60 เป็นวัยเกษียณที่ไม่มีประโยชน์กับสังคม ให้เป็นเพียงที่ปรึกษาแต่ไม่ให้เป็น productive สิ่งที่เกิดขึ้นคือเรากำลังจะใช้คนส่วนน้อยอุ้มคนส่วนมาก ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาของประเทศชาติในอนาคต