นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดี กรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทย กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ประชากรมีอายุขัยเพิ่มขึ้น ร่วมกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้พบอุบัติการณ์โรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้น 1 ในโรคหลอดเลือดสมองที่อัตราความพิการและเสียชีวิตสูงสุด คือโรคหลอดเลือดสมองโป่งพองแตก ซึ่งมีอัตราการเสียชีวิตโดยประมาณ 20–30%
นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กล่าวว่า อาการของโรคหลอดเลือดสมองโป่งพองแตก มีตั้งแต่ปวดศีรษะรุนแรง มองเห็นภาพซ้อน ปากเบี้ยว พูดลำบาก แขนขาอ่อนแรง ซึมสับสน โคม่า
โดยมีปัจจัยเสี่ยงคือโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง อายุที่มากขึ้น การสูบบุหรี่เป็นประจำ ภาวะอ้วน เป็นต้น ส่วนใหญ่ต้องได้รับการรักษาที่ค่อนข้างเร่งด่วนฉุกเฉิน
อย่างไรก็ดี ในอดีตการรักษาส่วนใหญ่เป็นการผ่าตัดเปิดเพื่อหนีบหลอดเลือดที่โป่งพอง แต่ในบางตำแหน่งของหลอดเลือด การรักษาด้วยการผ่าตัดมีข้อจำกัดหรือมีความเสี่ยงจากการผ่าตัดค่อนข้างสูง ยุ่งยากซับซ้อน
อย่าวไรก็ตาม ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น การรักษาผ่านสายสวนหลอดเลือดและใช้ขดลวดอุดหลอดเลือดสมองที่โป่งพอง ซึ่งมีบาดแผลเล็ก ฟื้นตัวไว เข้าถึงจุดหลอดเลือดโป่งพองได้ง่าย จึงเป็นทางเลือกในการรักษาในปัจจุบัน หรืออาจใช้ร่วมกับการรักษาด้วยการผ่าตัด
นายแพทย์สุจินต์ รุจิเมธาภาส นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ งานประสาทศัลยศาสตร์ กลุ่มงานศัลยศาสตร์ โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า ศูนย์การรักษาผ่านสายสวนหลอดเลือดโรงพยาบาลราชวิถี เป็นศูนย์ที่ให้การรักษาโรคหลอดเลือดสมองและหลอดเลือดส่วนปลาย โดยการใส่สายสวนหลอดเลือด เพื่อมุ่งหวังให้เกิดผลลัพธ์การรักษาที่ดีขึ้น ลดความพิการและเสียชีวิต
ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ การป้องกัน เลิกสูบบุหรี่ รักษาโรคประจำตัว เช่นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และเมื่อมีอาการ เช่นปวดศีรษะรุนแรง ควรรีบมาพบแพทย์โดยด่วน