เฝ้าระวังเหตุ “พลัดตกหกล้ม” ผู้สูงอายุมีโอกาสเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น

06 เม.ย. 2566 | 03:50 น.
อัปเดตล่าสุด :06 เม.ย. 2566 | 03:55 น.

เตือนปัญหา “พลัดตกหกล้ม” ในผู้สูงอายุมีโอกาสเพิ่มขึ้น รัฐบาลสนับสนุนบุตรหลานกลับบ้านสงกรานต์ ช่วยปรับสภาพแวดล้อมบ้านให้ปลอดภัย ให้ผู้สูงอายุเดินอย่างมั่นคง ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ

รัฐบาลประกาศให้ปี 2566 เป็นปีแห่งสุขภาพผู้สูงวัย และในวันที่ 13 เมษายนของทุกปี ยังเป็นวันผู้สูงอายุด้วย ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์แล้ว โดยมีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุแตะ 20% และในปี 2580 คาดว่าจะมีสัดส่วนของผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นมาถึง 30% ซึ่งจำเป็นต้องเฝ้าระวังความเสี่ยงที่จะได้รับอุบัติเหตุจากการ "พลัดตกหกล้ม" ได้

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ความเสี่ยงจากการพลัดตกหกล้ม เนื่องจากเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ทำให้ความสามารถลดลง เช่น การมองเห็นไม่ชัด สายตาผิดปกติ มีปัญหาการทรงตัว เดินเซ เคลื่อนไหวลำบาก การรับรู้ที่ช้าลง การมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ และมีโรคประจำตัวหรือโรคเรื้อรัง 

น่าห่วงคนแก่พลัดตกหกล้มเพิ่มขึ้น

การพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ ที่นับวันจะมีโอกาสเพิ่มขึ้น จากข้อมูลของระบบบริการสุขภาพพบว่า 1 ใน 3 ของผู้สูงอายุ หกล้มทุกปี สถานที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นในบ้าน 65% และเกิดขึ้นในห้องน้ำมากถึง 30% 

สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการลื่น สะดุด หรือก้าวพลาดบนพื้นระดับเดียวกัน ทั้งยังพบว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่ 80% พักอาศัยอยู่ในบ้านที่ไม่ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ เช่น ไม่มีราวจับในห้องน้ำ ใช้ส้วมนั่งยอง มีพื้นต่างระดับ มีสิ่งขวางกั้น บันไดไม่มีราวจับ เป็นต้น

แนะนำวิธีป้องกันความเสี่ยง

กรมควบคุมโรคได้แนะนำวิธีเพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่ผู้สูงอายุจะได้รับอุบัติเหตุจากการพลัดตกหกล้ม ดังนี้ 

  • เลือกและมอบรองเท้าให้ผู้สูงอายุ เป็นรองเท้าสำหรับผู้สูงอายุที่มีลักษณะหน้ากว้าง หุ้มส้น ส้นสูงไม่เกิน 1 นิ้ว รูปทรงเหมาะกับรูปเท้า พื้นมีดอกยางไม่ลื่น 
  • ปรับบริเวณพื้นที่ห้องน้ำให้ปลอดภัย โดยการติดตั้งราวจับ ทั้งบริเวณอาบน้ำและบริเวณโถส้วม ใช้โถส้วมเป็นแบบชักโครก และวางแผ่นรองกันลื่นบริเวณที่อาบน้ำ ใช้เก้าอี้นั่งอาบน้ำ ที่มั่นคงมีพนักพิงแขนและพิงหลัง
  • สำรวจและปรับสภาพแวดล้อมของบ้านให้ปลอดภัย เช่น จัดห้องนอนของผู้สูงอายุให้ใกล้กับห้องน้ำ ใช้ประตูแบบบานเลื่อน ไม่มีกลอนประตู มีแสงสว่างเพียงพอ ปรับพื้นเรียบเสมอกัน

นายกฯ แสดงความห่วงใย

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า นายกรัฐมนตรี ขอให้ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาไปเยี่ยมผู้สูงอายุในช่วงสงกรานต์ ส่งมอบความรักความห่วงใยให้สูงอายุในครอบครัวได้เดินอย่างมั่นคง เพื่อความปลอดภัย ห่างไกลจากการพลัดตกหกล้ม 

ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุ โดยให้ปี 2566 เป็นปีแห่งสุขภาพผู้สูงวัย เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลอย่างเป็นระบบและทั่วถึง ทั้งการคัดกรองความถดถอย 9 ด้าน ส่งต่อผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเข้ารับบริการรักษา ส่งมอบวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตผู้สูงอายุทั่วประเทศ เช่น แว่นสายตา ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ฟันเทียมและรากฟันเทียม 

ขณะเดียวกันผู้สูงอายุ ยังสามารถเข้ารับบริการดูแลสุขภาพ เช่น ฉีดวัคซีน ตรวจคัดกรองโรคเบาหวาน ตรวจคัดกรองโรคซึมเศร้า ได้ที่โรงพยาบาลคู่สัญญาของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทุกแห่งทั่วประเทศ