นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 (Covid-19) ว่า มีแนวโน้มสูงขึ้นชัดเจนช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งผู้ป่วยรายใหม่และผู้ป่วยหนักโดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยว
ทั้งนี้ จากการที่กองระบาดวิทยาได้ประเมินลักษณะทางระบาดวิทยาของโควิด 19 พบว่ามีความคล้ายคลึงกับไข้หวัดใหญ่ คือ มีการระบาดตามฤดูกาล จึงคาดประมาณได้ว่าอาจมีการระบาดของโควิด 19 สูงขึ้นในช่วงฤดูฝน
กระทรวงสาธารณสุขจึงขอให้ประชาชนเร่งเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ประจำปีก่อนเข้าฤดูฝนซึ่งจะเริ่มฉีดในปี 2566 เป็นปีแรก โดยฉีดปีละ 1 เข็ม สามารถใช้วัคซีนชนิดใดหรือรุ่นใดก็ได้โดยให้ห่างจากเข็มสุดท้ายหรือประวัติการติดเชื้ออย่างน้อย 3 เดือน และไม่ต้องนับว่าเป็นเข็มที่เท่าใด
โดยกรมควบคุมโรคได้มีการจัดเตรียมวัคซีนให้กับทุกกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป และได้มีการจัดหาวัคซีนรุ่นใหม่สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่อายุ 12 ปีขึ้นไปด้วย
"ประชาชนสามารถเข้ารับบริการฉีดโควิด 19 ได้ที่หน่วยบริการตามที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกำหนดไว้ สำหรับสถานที่ฉีดวัคซีนโควิด 19 ในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุขใน กทม. ได้แก่ ศูนย์บางรัก โรงพยาบาลราชวิถี สถาบันโรคผิวหนัง สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี โรงพยาบาลสงฆ์ และสถาบันบำราศนราดูร จังหวัดนนทบุรี"
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ปรับคำแนะนำการฉีดใหม่ให้เป็นการฉีดวัคซีนโควิดประจำปี เนื่องจากผลการสำรวจระดับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประชากรไทยทั้งจากกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค
และการศึกษาจากศาสตราจารย์ยง ภู่วรวรรณ พบว่าประชากรไทยส่วนใหญ่ได้มีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แล้ว จากการติดเชื้อหรือการรับวัคซีน การปรับคำแนะนำจึงเน้นคำแนะนำการฉีดให้เป็นแบบที่เข้าใจง่าย คือ ให้ฉีดวัคซีนโควิดประจำปี โดยขอเน้นให้กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 608 พนักงานบริการหรือผู้ที่มีอาชีพต้องสัมผัสคนเป็นจำนวนมาก หรือผู้อยู่ในสถานที่แออัด เช่น ทัณฑสถาน
รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ด่านหน้า และเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี เข้ารับวัคซีนประจำปีโดยเร็วเพื่อลดอาการป่วยหนัก เสียชีวิต และรักษาระบบสาธารณสุขของประเทศ ก่อนการระบาดของโควิด 19 ตามฤดูกาล ทั้งนี้ประชาชนทั่วไปก็สามารถรับวัคซีนโควิดประจำปีได้เช่นเดียวกันตามความสมัครใจ