นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดเผยว่า คนวัยทำงานมักจะประสบปัญหาทางสุขภาพที่มักเกิดขึ้นได้และเป็น 3 โรคยอดนิยม ประกอบด้วย
โรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ซึ่งมักเกิดจากการอยู่ในอิริยาบถเดิมเป็นเวลานาน ก็จะทำให้เกิดอาการดังกล่าวได้ สามารถบรรเทาด้วยการนวดรักษาและประคบสมุนไพร เพื่อกระตุ้นและปรับสมดุลของระบบการไหลเวียน ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้สะดวก ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว หรือใช้น้ำมันไพลหรือยาหม่องไพล ถูนวดเพื่อคลายกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวด และอาการอักเสบ แต่ต้องใช้นวดหลังจากเกิดการอักเสบแล้ว 48 ชั่วโมง
นอกจากนี้ยังมียาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ ที่มีฤทธิ์บรรเทาอาการปวด ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ คือ ยาเถาวัลย์เปรียง จากการศึกษาวิจัย พบว่า เถาวัลย์เปรียงสามารถลดอาการปวด และอาการอักเสบได้เช่นเดียวกับยาแก้อักเสบแผนปัจจุบัน ไม่ก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อร่างกาย และไม่มีการเปลี่ยนแปลงของผลเลือดทางห้องปฏิบัติการ จึงสามารถนำยาเถาวัลย์เปรียงมาใช้รักษากลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อได้อย่างปลอดภัย
2.โรคเครียด ความเครียด มักส่งผลกระทบโดยตรงทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ อาการวิงเวียนศีรษะ และ ความดันโลหิตสูงตามมาได้ ศาสตร์การแพทย์แผนไทย นิยมใช้กลิ่นหรือสุคนธบำบัดในการบรรเทาความตึงเครียดโดยเฉพาะสมุนไพรที่มีรสหอมเย็น เช่น มะลิ จำปี จำปา กระดังงา โดยนำสมุนไพรดังกล่าวมาวางไว้ที่ใกล้บริเวณที่นอน
กลิ่นของสมุนไพรจะช่วยให้ผ่อนคลาย ปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ และช่วยให้หลับสบายคลายจากความเครียดได้ หรือการใช้ยาหอมเทพจิตร ชงดื่มก็จะช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยแก้อาการหน้ามืด ตาลาย อาการวิงเวียนศีรษะ และช่วยให้นอนหลับสบาย รวมไปถึงการนวดไทยและการอบสมุนไพร จะช่วยกระตุ้นระบบทางเดินหายใจ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ผ่อนคลายความตึงเครียด ช่วยให้นอนหลับสบาย ลดอาการปวดศีรษะ บำรุงผิวพรรณ
3.โรคอ้วน จากการประเมินร่างกายในเบื้องต้น คือ ผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่า 25 kg/m2 ปัญหาโรคอ้วน มักเกิดจากพฤติกรรมของคนวัยทำงาน ทั้งพฤติกรรมการเลือกรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม รวมถึงการขาดการออกกำลังกาย โรคอ้วนจะส่งผลให้เกิดโรคตามมาได้หลายอย่าง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และ หลอดเลือดสมอง
ทางการแพทย์แผนไทยนิยมใช้สมุนไพรรสร้อน เช่น ข่า กะเพรา ขิง ตะไคร้ ฯลฯ ในการช่วยเพิ่มการเผาผลาญร่างกาย และยังช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้อีกด้วย และที่สำคัญ จะต้องหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล และอาหารที่มีไขมันสูง พร้อมทั้งเลือกรับประทานอาหารอย่างเหมาะสม และปริมาณที่พอดีกับความความต้องการของร่างกาย ที่สำคัญควรออกกำลังกายเป็นประจำ
สำหรับการออกกำลังกายด้วยศาสตร์แผนไทยที่แนะนำในการลดน้ำหนัก คือ การออกกำลังกายด้วยท่าฤๅษีดัดตน ซึ่งประโยชน์ของการบริหารร่างกายด้วยท่าฤาษีดัดตน ทำให้ร่างกายตื่นตัว แข็งแรง ระบบการไหลเวียนเลือดในร่างกายดีขึ้น เป็นการต่อต้านโรค บำรุงรักษาสุขภาพให้มีอายุยืนยาว ช่วยสุขภาพจิตดี
"1 พฤษภาคมของทุกปี คือวันแรงงานแห่งชาติ สำหรับแรงงานนั้นมีความสำคัญอย่างมากต่อการขับเคลื่อนประเทศ"