ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน (สพฉ.) ได้ดำเนินการร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เพื่อยกระดับการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี (EEC)
ทั้งนี้ รัฐบาลต้องการยกระดับการแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่ EEC ให้สามารถรองรับการให้บริการประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ลดการเสียชีวิตและความพิการจากอุบัติเหตุจราจร โรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลัน
รวมถึงอุบัติภัยในโรงงานอุตสาหกรรม โดยมีระบบลำเลียงผู้ป่วยด้วยอากาศยาน เรือ และพาหนะทางบกครบวงจร ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นของประชาชน นักท่องเที่ยว และนักลงทุน สนับสนุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการให้บริการทางสังคม และส่งเสริมเศรษฐกิจของพื้นที่ EEC
ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการ สพฉ. กล่าวว่า สพฉ. ร่วมมือกับ สกพอ. และภาคีเครือข่ายการแพทย์ฉุกเฉิน จัดทำโครงการพัฒนายกระดับการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่ EEC โดยพัฒนาระบบที่มีมาตรฐาน สามารถเข้าถึงบริการฉุกเฉินนอกโรงพยาบาลด้วยบุคลากรที่มีศักยภาพและความเชี่ยวชาญ
มีหน่วยปฏิบัติการ สถานพยาบาล รองรับการให้บริการที่รวดเร็ว ซึ่งภายใต้ความร่วมมือนี้ สพฉ. จะสนับสนุนภาคีเครือข่ายให้สามารถปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ มีมาตรฐาน ทั้งระบบปฏิบัติการฉุกเฉิน ระบบสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อปฏิบัติการฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว ทันเวลา ปลอดภัยทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ
ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการ สกพอ. กล่าวว่า สกพอ. จะมีบทบาทในการส่งเสริม สนับสนุน การปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ รวมทั้งสนับสนุนให้เกิดแนวทางการร่วมลงทุนในธุรกิจบริการ