"ฝีดาษลิง"ในไทยส่อยืดเยื้อเพราะอะไร ป้องกันยังไง เช็คเลยที่นี่

03 ก.ค. 2566 | 01:32 น.

"ฝีดาษลิง"ในไทยส่อยืดเยื้อเพราะอะไร ป้องกันยังไง เช็คเลยที่นี่มีคำตอบ หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งสูง 2 เท่า หมอธีระแนะสังเกตคนที่คลุกคลีใกล้ชิด โดยเฉพาะคนที่ทำงานภาคบริการ และแหล่งท่องเที่ยวกลางคืน

"ฝีดาษลิง" กำลังแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ทำให้เวลานี้กลายเป็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก 

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความระบุถึงการแพร่ระบาดของฝีดาษลิง ว่า

เคยวิเคราะห์ไว้ตั้งแต่สิงหาคมปีก่อน ว่ายืดเยื้อแน่นอน และจะดำเนินไปในลักษณะคล้ายเอชไอวี เพราะ mode of transmission คล้ายกัน

ล่าสุดเดือนที่ผ่านมา ไทยเรามีเคสใหม่ถึง 48 ราย สูงกว่าเดือนก่อนกว่า 2 เท่า และส่วนใหญ่อยู่ในกทม.
ดังนั้น จึงควรป้องกันตัว หมั่นสังเกตคนที่เราคลุกคลีใกล้ชิด โดยเฉพาะคนที่ทำงานภาคบริการ และแหล่งท่องเที่ยวกลางคืน ไม่ว่าจะกทม.หรือเขตเมืองในต่างจังหวัด และจังหวัดท่องเที่ยว

หมอธีระ วิเคราะห์ย่างก้าวของฝีดาษลิงด้วยว่า ย่างก้าวการระบาดของฝีดาษลิงนั้นมีความคล้ายคลึงกับเอชไอวีสมัยก่อน แต่ฝีดาษลิงนั้นมี feature ที่ overlap กับโรคอื่นด้วย เช่น โควิด-19 

ไม่ว่าจะในเรื่องกลุ่มประชากรเริ่มต้นที่มีการระบาดมาก หรือในแง่ของช่องทางการติดเชื้อแพร่เชื้อ 

ซึ่งนอกจากฝีดาษลิงจะติดต่อผ่านการสัมผัสทางกายเป็นหลักแล้ว ในแถบแอฟริกายังมีการแพร่จากแม่สู่ลูกผ่านทางรก และยังมีโอกาสติดผ่านการปนเปื้อนสิ่งแวดล้อมและอุปกรณ์ของใช้ส่วนตัวหรือที่จะจับต้องได้ (Fomites) และยังมีการตรวจพบสารพันธุกรรมของไวรัสในสิ่งคัดหลั่งทางเดินหายใจ เลือด ปัสสาวะ และอสุจิอีกด้วย

ฝีดาษลิงในไทยส่อยืดเยื้อเพราะอะไร ป้องกันยังไง

หมอธีระ บอกอีกว่า หากประเมินจากสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว ศึกฝีดาษลิงจึงมีโอกาสยืดเยื้อสูง แม้การติดเชื้อจะไม่พุ่งพรวดพราดแบบโควิด-19 ก็ตาม

ด้วยจุดอ่อนเชิงพฤติกรรมของมนุษย์ที่เราทราบกันดี เรื่องเพศ เรื่องการสัมผัสใกล้ชิด และการแชร์โน่นนี่นั่นร่วมกัน รวมถึงการรักษาความสะอาดของที่สาธารณะแล้ว เมื่อมีเคสฝีดาษลิงในชุมชนเกิดขึ้น โอกาสแพร่เชื้อติดเชื้อกันไปต่อเนื่องย่อมมีสูง 

สำหรับแหล่งที่ต้องระวังคือ สถานบันเทิงโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนกลางคืน แหล่งท่องเที่ยว รวมถึงสถานที่พักแรม ที่คนเยอะ แออัด รักษาความสะอาดไม่ดีพอ

Mode of transmission หลักน่าจะหนีไม่พ้นเรื่องการมีความสัมพันธ์สัมผัสคลุกคลีใกล้ชิด และเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะชายกับหญิง ชายกับชาย หญิงกับหญิง หรือแบบกลุ่มก็ตาม

ส่วน Fomite transmission นั้น แม้โอกาสจะน้อยกว่า แต่ก็ไม่ควรประมาท เพราะไม่รู้จะแจ็คพอตที่ใคร วันใด และที่ใด

การระงับความอยาก ใช้สติมาช่วยให้เกิดความยับยั้งชั่งใจตอนที่คิดจะสานสัมพันธ์ หมั่นสังเกต ตรวจตราก่อนจะหน้ามืด จึงมีความสำคัญ

การใส่หน้ากากเวลาตะลอน มีความจำเป็น ทั้งป้องกันฝีดาษลิงและโควิด-19

และสุดท้ายคือ การพกสเปรย์แอลกอฮอล์ ไปใช้ล้างมือหลังจับสิ่งของสาธารณะ รวมถึงพ่นฆ่าเชื้อตามสุขา และสถานที่พักแรมตอนที่ไปท่องเที่ยว ก็ถือว่ามีเหตุผลสมควรทำ กันไว้ดีกว่าแก้เหล่านี้คือสิ่งที่ควรปฏิบัติ

ทั้งนี้ หากธรรมชาติการระบาดเป็นไปดังที่เรียนรู้จากอดีต การปะทุที่อาจเกิดขึ้นมา ก็จะใช้เวลาสักระยะ ซึ่งนานกว่าโควิด-19 และคล้ายเอชไอวี และมักจะออกมาในรูปแบบ superspreading ในพื้นที่เสี่ยงและกลุ่มประชากรที่มีพฤติกรรมเสี่ยงถ้าระบบเฝ้าระวังดีพอ 

แต่หากระบบเฝ้าระวังไม่ดีพอ ก็อาจเจอปรากฏการณ์ดาวกระจาย

ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับประชาชนอย่างพวกเราคือ ป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ