ฝีดาษลิงล่าสุดในประเทศไทยยังคงพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้ง ยังมีการกระจายไปยังหลากหลายกลุ่มอายุ และเป็นการติดเชื้อในประเทศ
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยสถานการณ์โรคฝีดาษวานรหรือฝีดาษลิง (Monkey pox) หรือ Mpox ในประเทศไทยขณะนี้ว่า ข้อมูลถึงวันที่ 31 สิงหาคม มีรายงานผู้ป่วยรวม 316 ราย เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายมากถึง 271 ราย หรือ 85.8%
และมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี 143 ราย หรือ 45.3% มีสัญชาติไทย 277 ราย ชาวต่างชาติ 36 ราย ไม่ระบุ 3 ราย ในจำนวนผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร 198 ราย จ.ชลบุรี 22 ราย จ.นนทบุรี 17 ราย และ จ.สมุทรปราการ 12 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่อายุ 30-39 ปี 152 ราย รองลงมาอายุ 20-29 ปี 85 ราย กลุ่มเยาวชน อายุ 15-24 ปี 28 ราย ซึ่งกลุ่มเยาวชนเสี่ยงติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ จากการติดตามสถานการณ์ 4 เดือนย้อนหลัง พบการระบาดต่อเนื่อง ในเดือนพฤษภาคม ได้รับรายงานผู้ป่วย 22 ราย เดือนมิถุนายน 48 ราย เดือนกรกฎาคม 80 ราย และเดือนสิงหาคมได้รับรายงานเพิ่ม 145 ราย เกือบทั้งหมดเป็นคนไทย และรับเชื้อในประเทศ ในจำนวนนี้มีรายงานพบผู้ป่วยฝีดาษลิงเสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการรุนแรงและติดเชื้อฉวยโอกาสแทรกซ้อน
"ประเทศไทยได้รับการสนับสนุนยา Tecovirimat จากองค์การอนามัยโลกให้นำมาใช้กรณีฉุกเฉิน เป็นยาที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสกลุ่ม Poxvirus เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยยืนยันที่มีอาการมากและแพทย์รับเข้ารักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น"
ด้านนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า ระยะแรกของการแพร่เชื้อฝีดาษลิงในประเทศไทยกลุ่มเสี่ยงเป็นชายวัยทำงาน แต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เริ่มพบเยาวชนติดเชื้อฝีดาษลิงเพิ่มมากถึง 16 ราย โดยมีรายงานจากทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค กองระบาดวิทยา สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 (สคร.) จ.ชลบุรี ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ชลบุรี และหน่วยงานในพื้นที่ สอบสวนผู้ป่วยยืนยันฝีดาษลิงรายหนึ่งเป็นนักเรียนชายอายุ 16 ปี
เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมเข้ารักษาตัวแบบผู้ป่วยในเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ด้วยอาการตุ่มน้ำใสขึ้นตามร่างกาย ร่วมกับอวัยวะเพศบวมอักเสบ ตรวจพบเชื้อฝีดาษลิง ประวัติเสี่ยง ผู้ป่วยมีเพศสัมพันธ์กับหลายคน แพทย์จึงติดตามอาการของผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ซึ่งเป็นผู้สัมผัสร่วมบ้านจนครบ 21 วัน ยังไม่พบผู้ป่วยในครัวเรือน ดังนั้น ขอเตือนเยาวชนเเละกลุ่มชายรักชายให้งดเว้นมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยกับคนไม่รู้จัก
ขณะนี้สถานการณ์ผู้ป่วยในไทยเริ่มแพร่ระบาดจากกลุ่มวัยทำงาน วัยรุ่น ไปสู่กลุ่มอายุน้อยลงได้แก่เยาวชนวัยเรียนเเล้ว ขอให้ตระหนักว่า เยาวชนต้องป้องกันตัวอย่างมีความรู้ความเข้าใจ เพื่อลดความเสี่ยงติดโรค โดยสังเกตรอยโรค อาการแสดง สังเกตผิวหนังตามร่างกายของคู่นอน ว่ามีผื่นแบนหรือนูน ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง ตกสะเก็ด มักพบตามอวัยวะเพศรอบทวารหนัก แขน ขา หรือฝ่ามือฝ่าเท้า ลำตัว ศีรษะ
ก่อนหน้าจะเกิดอาการมักมีไข้ร่วมกับอาการอื่น เช่น ต่อมน้ำเหลืองบวมโต เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดหลัง ทั้งนี้ หากสงสัยติดเชื้อฝีดาษวานร ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษา พร้อมกับแยกตัวออกจากสมาชิกในครอบครัว ที่พัก หรือ สถานที่ทำงาน ไม่รับประทานดื่มน้ำด้วยภาชนะร่วมกับ