29 พฤศจิกายน 2566 นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน 2566 เริ่มมีแนวโน้มพบผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเป็นไปตามคาดการณ์ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการน้อย และยังคงเป็นสายพันธุ์ Omicron
นอกจากนี้กรณีที่มีรายงานข่าวจากประเทศจีนว่า พบการระบาดของโรคติดต่อทางเดินหายใจเป็นวงกว้างและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศจีน ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นมาทำให้หลายประเทศให้ความสนใจต่อข่าวนี้เป็นอย่างมาก
กรมควบคุมโรคได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและขอให้ข้อมูลว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า ทางการจีนได้แจ้งสาเหตุที่ทำให้เกิดการระบาดของโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจนั้น พบว่า มีการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยเชื้อก่อโรคทางเดินหายใจที่เคยมีรายงานแล้ว เช่น เชื้อไมโคพลาสมา (Mycoplasma pneumoniae) ไข้หวัดใหญ่ ไวรัสอาร์เอสวี (RSV) ไวรัสอะดีโน (Adenovirus) โดยพบผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็ก และข้อมูลจากการสอบสวนโรคไม่พบเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่
สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ มีแนวโน้มลดลง (ข้อมูล ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2566) พบผู้ป่วยแล้ว 404,896 ราย เสียชีวิต 26 ราย กลุ่มผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กเล็กและเด็กวัยเรียน อายุแรกเกิด - 14 ปี ขณะที่โรคติดเชื้อไวรัส RSV ซึ่งเป็นโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ พบการระบาดลดลงเช่นเดียวกัน
สำหรับข้อมูลสถานการณ์โรคโควิด 19 ในประเทศไทย ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (วันที่ 20-26 พฤศจิกายน 2566) พบว่า มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด รวม 480 ราย เฉลี่ยวันละ 69 ราย และมีรายงานผู้เสียชีวิต 2 ราย
โดยสัปดาห์ดังกล่าวมีการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยจากสัปดาห์ก่อน ๆ เล็กน้อยซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์โรคว่าจะมีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ประมาณการจำนวนผู้ป่วยโควิด 19 รักษาในโรงพยาบาล 24,590 ราย ผู้ป่วยอาการหนักรวม 3,277 ราย ซึ่งองค์การอนามัยโลกยังคงแนะนำให้กลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวและเด็กอายุน้อยกว่า 2 ปี เข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัยเมื่อไปในสถานที่ที่มีผู้คนหนาแน่น หรือต้องใกล้ชิดกับกลุ่ม 608 รวมทั้งเด็กเล็กซึ่งยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด 19 และแนะนำล้างมือบ่อย ๆ
หากพบตนเองมีอาการป่วยสามารถตรวจหาเชื้อด้วย ATK เบื้องต้น โดยเฉพาะกลุ่ม 608 หาก ATK พบผลบวกให้รีบไปพบแพทย์ทันที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422