PRINC ปรับแผนปี 67 ลดลงทุนอสังหาฯ สยายปีกธุรกิจเฮลท์แคร์ครบวงจร

01 มี.ค. 2567 | 10:00 น.
อัปเดตล่าสุด :01 มี.ค. 2567 | 10:00 น.

"พริ้นซิเพิล แคปิตอล" ปรับแผนลดสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อมุ่งสู่ธุรกิจเฮลท์แคร์ตามแผนการดำเนินงานย่างยั่งยืน เดินหน้าขยายโรงพยาบาล 20 แห่งภายใน 2 ปี พร้อมเปิดศูนย์การแพทย์และคลินิกดูแลรักษาผู้ป่วยครบวงจร

นายแพทย์กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล กรรมการผู้จัดการและรองประธานกรรมการ บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล (PRINC) กล่าวว่า บริษัทเดินหน้าแผนงาน ขยายโรงพยาบาลตามเป้าหมาย 20 แห่งภายใน 2 ปี และปี 2567 นี้ จะเปิดศูนย์การแพทย์รวมทั้งคลินิกเฉพาะทางเพิ่มอีกหลายสาขา ขยายศูนย์รักษามะเร็งของโรงพยาบาลในเครือหลายแห่ง รวมถึงธุรกิจธุรกิจเฮลท์แคร์ โดยมุ่งเน้นธุรกิจการดูแลรักษาฟื้นฟูผู้สูงอายุ และผู้ป่วยอย่างครบวงจร ตลอดจนธุรกิจเครื่องมือแพทย์ การดูแลรักษาผู้มีบุตรยาก ฯลฯ 

PRINC ปรับแผนปี 67 ลดลงทุนอสังหาฯ สยายปีกธุรกิจเฮลท์แคร์ครบวงจร นอกจากนี้ ยังมีแผนลดสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อมุ่งสู่ธุรกิจเฮลท์แคร์ตามแผนการดำเนินงานย่างยั่งยืน เพื่อสร้างการเข้าถึงบริการสาธารณสุขในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ตามปณิธานขององค์กร ที่สร้างคนให้มีจิตใจเป็นผู้ให้ เพื่อช่วยเหลือคน ชุมชน สังคม

ปัจจุบัน บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล (PRINC) มีโรงพยาบาลในเครือทั้งหมด 15 แห่ง เปิดดำเนินการแล้ว 14 แห่งใน 11 จังหวัด รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2566 มีรายได้รวม 1,523 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และทั้งปี 2566 มีรายได้รวม 5,640 ล้านบาท ถ้าพิจารณาเฉพาะรายได้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 พบว่ารายได้เติบโตขึ้น 36.1 % จากผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นในทุกโรงพยาบาล 

โดยดำเนินงานไตรมาสที่ 4 ปี 2566 อัตราการครองเตียง (Average Daily Census – ADC) ของผู้ป่วยเติบโตถึง 62.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และยังคงรักษาการเจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 3 ว่าทำสถิติในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยมี 3 ปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ 

PRINC ปรับแผนปี 67 ลดลงทุนอสังหาฯ สยายปีกธุรกิจเฮลท์แคร์ครบวงจร

1. ผลการดำเนินงานที่มุ่งเสริมศักยภาพเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ ทั้งการเพิ่มบริการด้านการแพทย์ การเสริมทีมแพทย์และเปิดคลินิกหรือศูนย์การแพทย์เฉพาะทางในปี 2566 รวมทั้งรับรู้รายได้จากโรงพยาบาลใหม่ โรงพยาบาลรวมแพทย์ พิษณุโลก หน่วยบริการรับส่งต่อทางการแพทย์ ภายใต้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมมอนซูน (Monsoon Wind Farm) เมืองดากจึง แขวงเซกอง สปป.ลาว ของ รพ.พริ้นซ์ อุบลราชธานี ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างการรับรู้และขยายฐานกลุ่มผู้รับบริการชาว สปป.ลาว ฯลฯ และยังมีแผนขยายโรงพยาบาลเพิ่มต่อเนื่อง โดยลงทุนขยายบริการทางการแพทย์ในสาขาเฉพาะทาง เช่น หัวใจ มะเร็ง คลินิกผู้มีบุตรยาก ตามโรงพยาบาลในเครือด้วย

2.การขยับฐานของจำนวนผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเฉพาะในนกลุ่มโรคที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ทั้งโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ RSV ในเด็ก ใข้หวัดใหญ่สายพันธ์ A และ B และโรคไข้เลือดออก ทั้งผู้ป่วยชาวไทยและประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว รวมถึงชาวกัมพูชา ทำให้ภาพรวมจำนวนผู้ป่วยนอก (OPD) เฉลี่ยต่อวันสูงขึ้น 14.0% รายได้ผู้ป่วยนอกเฉลี่ยต่อครั้งสูงขึ้น 8.1% และ Admission Rate สูงขึ้น 3.4%

 3.การเพิ่มศักยภาพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทางการแพทย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการทางการแพทย์ การบริหารจัดการของโรงพยาบาลและธุรกิจในเครือ ผ่านโมเดล Shared Services เช่น Teleradiology พร้อมด้วยทีมแพทย์รังสีรักษาในเครือ, การพัฒนาระบบ PRINC Single Profile ตรวจสอบประวัติการรักษาข้ามสถานพยาบาล ซึ่งมั่นใจได้ว่าถ้าเจ็บป่วย ไม่ว่าจะเข้ารับบริการโรงพยาบาลแห่งใดในเครือจะได้รับบริการที่ดี พร้อมข้อมูลประวัติการรักษาให้แพทย์วินิจฉัยรักษาได้อย่างตรงจุด เป็นต้น

ส่วนผลการดำเนินงานตามแนวทางความยั่งยืน (ESG) บริษัทฯ ได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย หรือ CG ประจำปี 2566 ในระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) เป็นปีแรก โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) และผ่านการประเมินมาตรฐานสากลด้านจริยธรรมของผู้ให้บริการด้านสุขภาพ หรือ EPiHC นับเป็นสถานพยาบาลแห่งที่ 2 ในประเทศไทยที่ได้รับการประเมินดังกล่าว

นอกจากนี้ ยังร่วมสนับสนุนข้อตกลงระดับโลกของสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) ในประเทศไทย พร้อมขับเคลื่อนการดำเนินงานขององค์กรหลังเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ตั้งแต่ปี 2564 มุ่งลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิ จากกระบวนการดำเนินงานเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2573 ทั้งเดินหน้าปรับเปลี่ยนไปใช้พลังงานแสงอาทิตย์ด้วย Solar Rooftop เพิ่มเติมอีก 2 แห่ง ที่ รพ.พริ้นซ์ อุบลราชธานี และรพ.พริ้นซ์ อุทัยธานี รวมดำเนินการแล้วทั้งหมด 5 แห่ง ตามแผนการดำเนินงานด้านความยั่งยืน