"สุรีย์พรคลินิก" ทุ่ม 200 ล้าน ปั้นแฟลกชิปเสริมทัพธุรกิจความงาม 7 หมื่นล้าน

01 มิ.ย. 2567 | 09:00 น.

ธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงาม 7 หมื่นล้านคึกคัก “สุรีย์พรคลินิก” พลิกโฉมจากคลินิกห้องแถวสู่อาณาจักรความงามเลียบด่วน - รามอินทรามูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ชูบิวตี้เทคเสิร์ฟลูกค้าไทย ต่างชาติ จับตาครึ่งปีหลังแข่งหั่นราคา ส่งผลกระทบทำให้ด้อยคุณภาพ หวั่นลูกค้าเข็ด หนีหาย

ดร.สุรีย์พร ไพศาลโรจน์ ผู้บริหารสุรีย์พรคลินิก (Sureephorn Clinic) และจันทรัตน์คลินิก (Jantarat Clinic) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัททุ่มงบลงทุนกว่า 200 ล้านบาทในการซื้อที่ดินและก่อสร้างสำนักงานและศูนย์บริการลูกค้าภายใต้ชื่อ “สุรีย์พรคลินิก” บริเวณเลียบทางด่วน-รามอินทรา เพื่อให้ที่นี่เป็นแฟลกชิปในการให้บริการด้านความงามแก่ลูกค้าแบบครบวงจร โดยเป็นแผนลงทุนต่อเนื่อง 5 ปี จากปี 2563-2567 โดยเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เดือน ก.ค. 2566 และตั้งเป้าหมายให้ที่นี่เป็นแลนด์มาร์กคลินิกความงามแห่งใหม่

ทั้งนี้สุรีย์พรคลินิกและจันทรัตน์ คลินิก เปิดให้บริการมานาน 20 ปี ถือเป็นคลินิกเวชกรรมความงามและเลเซอร์ให้บริการดูแลรักษาปัญหาผิวพรรณและความงาม ที่ได้รับความนิยมโดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือ ผู้บริโภคระดับบน ที่ใส่ใจและเลือกบริการที่ดีในการดูแลรูปหน้าและรูปร่าง โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และมีประสบการณ์ โดยปัจจุบันเปิดให้บริการ 2 สาขาคือ สุรีย์พร คลินิก เลียบทางด่วน-รามอินทรา และ จันทรัตน์ คลินิก สุราษฎร์ธานี

“สุรีย์พรคลินิก เริ่มต้นธุรกิจจากการเปิดคลินิกความงามสาขาแรกในย่านรามคำแหง 29 จะเรียกว่าเป็นคลินิกห้องแถวก็ได้ ก่อนที่จะขยายสาขา 2 ในย่านห้วยขวาง ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยจุดเด่นที่ให้ลูกค้าสามารถมารับคำปรึกษาจากแพทย์ได้โดยตรง พร้อมบริการและรักษาในราคาที่คุ้มค่า ทำให้มีลูกค้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง และบอกต่อแบบปากต่อปาก ทำให้คลินิกเติบโตอย่างรวดเร็ว แม้ในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19”

\"สุรีย์พรคลินิก\" ทุ่ม 200 ล้าน ปั้นแฟลกชิปเสริมทัพธุรกิจความงาม 7 หมื่นล้าน

ดร.สุรีย์พร กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ดี ด้วยจุดเด่นที่ไม่มีทีมขาย ไม่มีค่าการตลาด ทำให้คลินิกสามารถให้บริการในราคาที่จับต้องได้ และสามารถมาขอรับคำปรึกษาได้อย่างเต็มที่ จึงได้รับความนิยมทั้งจากนักศึกษา คนทำงาน รวมถึงกลุ่มลูกค้าระดับบน ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ล้วนมีรอยัลตี้ และใช้บริการต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน ทำให้บริษัทตัดสินใจทุ่มเงินกว่า 200 ล้านบาทในการซื้อที่ดินย่านเลียบทางด่วน-รามอินทรา พร้อมก่อสร้างเป็นสำนักงานแห่งใหม่ ซึ่งที่นี่มีพื้นที่จอดรถกว้างขวาง สะดวกสบาย รวมทั้งมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นเครื่อง Ultaformer MPT และ Volnewmer มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพยกระดับของการดูแลรักษาเกี่ยวกับทางด้านความงามให้ดียิ่งขึ้น

สำหรับผลประกอบการในไตรมาสแรกที่ผ่านมา พบว่ามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจมีการเติบโตกว่า 30% โดยบริการที่ลูกค้าให้ความนิยมสูงสุดได้แก่ ยกกระชับใบหน้า, ปรับรูปหน้า และดูแลรูปร่าง โดยคาดว่าตลอดทั้งปีนี้จะมีรายได้โดยรวมเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 30% เช่นกัน

\"สุรีย์พรคลินิก\" ทุ่ม 200 ล้าน ปั้นแฟลกชิปเสริมทัพธุรกิจความงาม 7 หมื่นล้าน

“ในครึ่งปีหลังสิ่งที่กังวลมากที่สุดคือ การแข่งขันที่รุนแรงของคลินิกความงาม ทำให้เกิดการดั้มราคา ซึ่งการจะทำราคาให้ถูกลง จะส่งผลให้คุณภาพลดลงไปด้วย  หากลูกค้าไปใช้บริการแล้วไม่ประทับใจ จะทำให้ลูกค้าหายไป ไม่กลับมาใช้บริการอีก ดังนั้นคลินิกความงามจะต้องใส่ใจ และให้ความสำคัญเรื่องของคุณภาพ ที่คุ้มค่าคุ้มราคา เพื่อให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการต่อเนื่อง”

\"สุรีย์พรคลินิก\" ทุ่ม 200 ล้าน ปั้นแฟลกชิปเสริมทัพธุรกิจความงาม 7 หมื่นล้าน

ทั้งนี้การบริหารสุรีย์พรคลินิกและจันทรรัตน์คลินิก อยู่ภายใต้การดูแลของ 3 พี่น้องได้แก่ ดร.สุรีย์พร ไพศาลโรจน์ (บ.ภ.) , พญ.จุไรพร ไพศาลโรจน์ ผู้บริหารสุรีย์พรคลินิก และ พญ.จันทรัตน์ ไพศาลโรจน์ ผู้บริหารจันทรัตน์คลินิก

จากข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงามของไทยปี 2566 มีมูลค่าตลาดราว 7.1 – 7.2 หมื่นล้านบาท ขยายตัวราว 2.3% - 3.6% ฟื้นตัวภายหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย โดยพบว่ามีผู้ประกอบการรายใหม่ไม่ต่ำกว่า 4,000 ราย โดยเฉพาะกลุ่มทุนเกาหลีที่เข้ามาเปิดให้บริการไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

 

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 3,997 วันที่ 2 - 5 มิถุนายน พ.ศ. 2567