24 มิถุนายน 2567 นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงสถานการณ์โควิด 19 รายสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 16 - 22 มิถุนายน 2567 พบผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล 1,823 ราย เฉลี่ยวันละ 260 ราย ลดลง 63.2% ผู้ป่วยปอดอักเสบ 732 ราย ลดลง 2.1% ใส่ท่อช่วยหายใจ 347 ราย เพิ่มขึ้น 2.3% และเสียชีวิต 12 ราย เพิ่มขึ้น 8%
ทั้งนี้ ในจำนวนผู้เสียชีวิต 11 ราย หรือ 91.7% ของจำนวนผู้เสียชีวิต เป็นผู้ที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป จึงขอให้ประชาชนมีความตระหนักแต่ไม่ตระหนก แนะนำต้องป้องกันตนเองและระมัดระวังไม่นำเชื้อไปสู่กลุ่มเสี่ยง 608 เน้นรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลหากจำเป็นต้องเข้าไปในพื้นที่ที่มีคนหมู่มากหรือแออัด ควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาและล้างมือบ่อย ๆ หากมีอาการป่วยให้รีบไปพบแพทย์
นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า โควิด 19 ส่วนใหญ่พบการระบาดในสถานที่ที่มีผู้คนรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก เช่น เรือนจำ วัด สถานศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงพยาบาล และสามารถพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี ไม่ต่างจากโรคทางเดินหายใจอื่น ๆ
แนะนำผู้ปกครอง หากบุตรหลานมีอาการป่วยเป็นโควิด 19 แม้เพียงเล็กน้อย ขอให้หยุดรักษาตัวที่บ้านจนกว่าจะหายดีแล้วจึงกลับไปเรียนได้ และเด็กป่วยไม่ควรเข้าใกล้กลุ่มเสี่ยง 608 เนื่องจากหากติดเชื้ออาจมีอาการหนักได้
ขณะนี้เข้าสู่ช่วงฤดูฝนแล้ว เป็นช่วงที่โรคระบบทางเดินหายใจแพร่ระบาดได้ง่าย แนะนำประชาชนที่มีอาการเสี่ยง เช่น มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ควรตรวจหาเชื้อเบื้องต้นด้วย ATK หากพบผลติดเชื้อ (ขึ้น 2 ขีด) ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ แยกตัวไม่ใกล้ชิดกับผู้อื่นและรีบพบแพทย์โดยเฉพาะในกลุ่ม 608 เนื่องจากหากกลุ่มเสี่ยงติดเชื้ออาจมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้
สำหรับประชาชนทั่วไปที่ยังไม่มีอาการ สามารถป้องกันตนเองได้ ดังนี้
1.หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์
2.หลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่แออัด หรือกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก
3.สวมหน้ากากอนามัยโดยเฉพาะเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ
4.หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดคลุกคลีกับผู้ป่วยที่มีอาการระบบทางเดินหายใจ
5.หากมีอาการป่วยแต่ผลตรวจ ATK ยังไม่ติดเชื้อ ควรสวมหน้ากากอนามัยเมื่อใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยง 608 เพื่อลดโอกาสแพร่เชื้อไปสู่ผู้สูงอายุหรือกลุ่ม 608 ในครอบครัวซึ่งอาจทำให้มีอาการรุนแรงและการเสียชีวิตได้