BLC ส่งสมุนไพรสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ พร้อมขยายตลาดรับเทรนด์ Pharma Tech

11 ก.ย. 2567 | 00:54 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ก.ย. 2567 | 01:35 น.

“บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค” ผลิตนวัตกรรมสมุนไพรสารสกัดจากพริก เข้าบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติ เผยอุตสาหกรรมยาแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เล็งเปิดตัว BKD VIVA ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ รับเทรนด์ Pharma Tech มั่นใจรายได้ปี 2567 เติบโตตามเป้าหมาย

ภก.สุวิทย์ งามภูพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) หรือ BLC ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ กล่าวว่า BLC ประสบความสำเร็จในการนำผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากสมุนไพรไทย ซึ่งเป็นโลชันทารักษาปลายประสาทที่ผลิตจากสมุนไพรนวัตกรรมจากพริกบรรจุเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยสามารถเบิกจ่ายผ่านสิทธิขั้นพื้นฐานของรัฐบาลได้ และคาดการณ์ว่ายอดการสั่งซื้อจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 

โดยการนำยาเข้าบัญชียาหลักแห่งชาติเป็นการช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาที่จำเป็นได้มากขึ้น ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้นและลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของทั้งผู้ป่วยและภาครัฐ ถือเป็นไปตามแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่มุ่งยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ประชาชน และสร้างความมั่นคงทางด้านสุขภาพให้แก่ประเทศชาติ 

นอกจากนี้ ยายังรักษาไวรัสตับอักเสบบียังได้ และรับการบรรจุเข้าสู่บัญชียานวัตกรรม ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมอุตสาหกรรมยาในประเทศไทย ตามนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้มีการจัดสรรงบประมาณอย่างน้อย 30% ของค่ายาที่ใช้จ่ายประจำปีในกลุ่มของบัญชีนวัตกรรม เพื่อซื้อยาที่ผลิตขึ้นโดยคนไทย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการวิจัยและพัฒนายาในประเทศ และสร้างความมั่นคงทางยาให้กับประเทศในระยะยาว

BLC ส่งสมุนไพรสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ พร้อมขยายตลาดรับเทรนด์ Pharma Tech

ภก.สุวิทย์ กล่าวว่า ในช่วงครึ่งหลังปี 2567 BLC ได้วางกลยุทธ์สำคัญในการดำเนินธุรกิจซึ่งมุ่งเน้นการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ สำหรับตลาดในประเทศ บริษัทฯ วางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่ พร้อมเน้นการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ส่วนตลาดต่างประเทศ ตั้งเป้าขยายการจดทะเบียนยาสามัญ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในฮ่องกง ขณะที่ สปป.ลาว ก็ได้เริ่มจดทะเบียนยาสามัญใหม่สำหรับรักษาอาการผมร่วงในผู้ชาย โดยใช้กลยุทธ์ B2P (Business to Professional) ผ่านการขายตรงให้กับโรงพยาบาลและคลินิก คาดว่าจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต 

ทั้งนี้ BLC ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคตด้วย

เปิดตัวสู่ตลาดออนไลน์

“เราเตรียมรุกตลาดออนไลน์ผ่านการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม โดยได้จัดตั้งบริษัท บีเคดี วีว่า จำกัด (BKD VIVA) ในการขยายช่องทางการขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำ ได้แก่ Facebook, Shopee, Lazada และ TikTok เน้นจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง ด้วยกลยุทธ์การไลฟ์สดเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้า”

การเปิดตัวสู่ตลาดออนไลน์ครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของ BLC ในการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการเติบโตและตอบสนองต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป การขยายช่องทางออนไลน์นี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต อีกทั้ง BKD VIVA ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอางออนไลน์

สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมสุขภาพไทยในครึ่งหลังปี 2567 มีทิศทางสดใส โดยได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัยทั้งเทรนด์ Pharma Tech กำลังสร้างผลกระทบเชิงบวก ช่วยยกระดับการรักษา การจัดการยา และลดเวลาในการตรวจสอบประวัติผู้ป่วย ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลสุขภาพโดยรวม ขณะเดียวกัน ประเทศไทยกำลังเร่งพัฒนาศูนย์ Health Tech อย่างแพร่หลาย เพื่อก้าวสู่การเป็น Medical Hub ของภูมิภาค 

BLC ส่งสมุนไพรสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ พร้อมขยายตลาดรับเทรนด์ Pharma Tech

ด้านนโยบายฟรีวีซ่าของภาครัฐก็คาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้กับอุตสาหกรรมสุขภาพ โดยเฉพาะในด้านสมุนไพรไทยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีสมัยใหม่และภูมิปัญญาดั้งเดิมนี้ มีแนวโน้มที่จะสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และยกระดับมาตรฐานการดูแลสุขภาพในประเทศไทย ส่งผลให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมสุขภาพไทยในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

“BLC ในช่วงครึ่งหลังปี 2567 เรามุ่งเน้นการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่ในประเทศ พร้อมรุกตลาดออนไลน์ผ่าน BKD VIVA บนแพลตฟอร์มชั้นนำ ส่วนตลาดต่างประเทศ เราตั้งเป้าขยายการจดทะเบียนยาสามัญและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในฮ่องกงและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยใช้กลยุทธ์ B2P ผ่านโรงพยาบาลและคลินิก เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง”