สธ. เปิดประชุมวิชาการ ปี 67 ชูนวัตกรรมจัดการสุขภาพ ยกระดับบริการยุคดิจิทัล

12 ก.ย. 2567 | 05:59 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ก.ย. 2567 | 06:01 น.

ปลัด สธ.เปิดการประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุข ปี 2567 มุ่งพัฒนานวัตกรรมการจัดการสุขภาพ ยกระดับการจัดบริการสาธารณสุขยุคดิจิทัลพร้อมแสดงความยินดีกับนักการสาธารณสุขดีเด่น รางวัลชัยนาทนเรนทรปี 66

12 กันยายน 2567​ ที่หอประชุมวงษ์ชวลิตกุล มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล จ.นครราชสีมา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข​ (สธ.)​ มอบหมายให้ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดสธ. เปิดการประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุข ประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด "นวัตกรรมการจัดการสุขภาพยั่งยืนสู่การยกระดับบริการสาธารณสุขในยุคดิจิทัล​ โดยมี บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกสาขาวิชาชีพจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเข้าร่วมงาน 5,000 คน

นพ.โอภาส ปลัด​สธ.​ กล่าวว่า​ การจัดประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุข​ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีอย่างต่อเนื่องนับเป็นเรื่องที่ดีความสำคัญของการจัดประชุมครั้งนี้​ว่า นอกจากเป็นเวทีแสดงผลงานการพัฒนางานทางการแพทย์และสาธารณสุข ยังเป็นช่องทางในการระดมความคิด เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข

ทั้งยังเป็นอีกช่องทางในการระดมความคิดที่เป็นประโยชน์ต่อนโยบายรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข​ 5+5 เร่งรัดพัฒนาสานต่อ

สธ. เปิดประชุมวิชาการ ปี 67 ชูนวัตกรรมจัดการสุขภาพ ยกระดับบริการยุคดิจิทัล

สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ​ 20​ ปีด้านสาธารณสุข​ (พ.ศ.2560-2579) ให้เป็นไปตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ​ Sustainable  Development  Goals :SDGs)​

สำหรับปีนี้มีการจัดบูธนิทรรศการให้ความรู้ถึง 30 บูธ และนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ 1,062 ผลงาน​ แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของวงการแพทย์และสาธารณสุขไทยและยังสามารถนำมาจดสิทธิบัตรเพื่อต่อยอดขยายผลทางการค้า ลดการนำเข้าเครื่องมือแพทย์จากต่างประเทศได้

พร้อมร่วมแสดงความยินดีกับนักการสาธารณสุขดีเด่น "รางวัลชัยนาทนเรนทร" ประจำปี 2566 ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงคุณค่าและเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดสำหรับผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุข ดังนี้

1.ประเภทวิชาการ ได้แก่ ศ.(เกียรติคุณ) นพ.สมหวัง ด่านชัยวิจิตร ที่ปรึกษาภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้บุกเบิกและวางรากฐานระบบงานป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ

2.ประเภทบริการ ได้แก่ นพ.วรวิทย์ ตันติวัฒนทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุ้มผาง จ.ตาก แพทย์ชนบทดีเด่น

3.ประเภทผู้นำชุมชน ได้แก่ นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน จ.น่าน ผู้นำการขับเคลื่อนนโยบายสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน โครงการ จิตอาสาทำดี ที่เมืองน่าน

4.ประเภทประชาชน ได้แก่ นางวันทิตย์ ชอบจิตต์ อสม. ต.ดงเจน จ.พะเยา ผู้ริเริ่มจัดตั้งศูนย์สุขภาพจิตในชุมชน" เฮือนแม่หญิงดงเจน

สธ. เปิดประชุมวิชาการ ปี 67 ชูนวัตกรรมจัดการสุขภาพ ยกระดับบริการยุคดิจิทัล

สำหรับผลงานวิชาการยอดเยี่ยม ประจำปี 2566 มีผู้ได้รับรางวัล 6 คน ได้แก่

1. นพ.ภาคิน ธนการเวคิน รพ.บรบือ จ.มหาสารคาม เรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดบริการผ่าตัดแบบวันเดียวกลับและการผ่าตัดแผลเล็ก โรงพยาบาลบรบือ จังหวัดมหาสารคาม

2. พญ.ชิดชนก ชูวงศ์โกมล รพ.มหาราชนครราชสีมา เรื่อง Effect of a Single-dose Dexmedetomidine on Postoperative Delirium and Intraoperative Hemodynamic Outcomes in Elderly Hip Surgery; a Randomized Controlled Trial.

3. นางสุภาพรณ์  ตัณฑ์สุระ รพ.ขอนแก่น เรื่อง การพัฒนาต้นแบบระบบการดูแลต่อเนื่องหลังการดูแลฉุกเฉินในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองและการบาดเจ็บที่สมอง จังหวัดขอนแก่น

4. นางศิโรรัตน์ ชูสกุล รพ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม เรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริการทางเภสัชกรรมผู้ป่วยในเพื่อป้องกันการแพ้ยาข้ามกัน ในกลุ่มยาที่มีโอกาสแพ้ข้ามกันสูง ภายใต้บริบทของโรงพยาบาลวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม

5. นางสาวนิโลบล เชื่อมสันเทียะ รพ.มหาราชนครราชสีมา เรื่อง ผลการประเมินความเหมาะสมของการสั่งใช้ NOACs ในโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

6. นายภูริพัฒน์ กะมิง รพ.เทพา จ.สงขลา เรื่อง​ Thepha Doctor เทคโนโลยีให้บริการสาธารณสุขเพื่อชุมชนและการให้บริการที่เสมอภาคเท่าเทียม อำเภอเทพา

ทั้งนี้​ กระทรวงสาธารณสุขยังมีนโยบายพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลในสังกัดให้ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และเพิ่มคุณภาพการบริการด้วยการสื่อสารอย่างเข้าอกเข้าใจ โดยยกระดับโรงพยาบาลเป็น 3 ระดับ ได้แก่

-โรงพยาบาลมาตรฐาน (Standard Hospital : S)

-โรงพยาบาลที่เป็นแหล่งฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข (Academy Hospital : A)

-โรงพยาบาลที่ให้บริการขั้นสูง (Premium Hospital : P)

ได้จัดให้มีการมอบรางวัลยกระดับหน่วยบริการดีเด่น หรือ SAP Award ประจำปี 2567 ขึ้นเป็นปีแรก ประกอบด้วย

1.โรงพยาบาล "ปรับโฉมดีเด่น" ระดับโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ได้แก่ โรงพยาบาลสวรรคประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ และโรงพยาบาลหนองคาย จ.หนองคาย ระดับโรงพยาบาลชุมชน ได้แก่ โรงพยาบาลโคกสูง จ.สระแก้ว และโรงพยาบาลสามชุก จ.สุพรรณบุรี

2.โรงพยาบาล "เอกลักษณ์โดดเด่น" ได้แก่ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี จากการเป็นศูนย์ความเป็นเลิศด้านการแพทย์แผนไทย

รวมทั้งมอบรางวัล "การดำเนินงานตามนโยบายการขับเคลื่อนการสื่อสารสาธารณะและสังคม (Care D+) ด้านการสื่อสารอย่างเข้าอกเข้าใจ ในระดับเขตสุขภาพ โดยเขตสุขภาพที่ 9 ได้รับรางวัลระดับยอดเยี่ยม (Platinum Award) เขตสุขภาพที่ 1 ได้รับรางวัลระดับดีเด่น (Gold Award) และเขตสุขภาพที่ 12 ได้รับรางวัลระดับดี (Silver Award)