ชี้เทรนด์ธุรกิจ “สเต็มเซลล์” โตเด่น “เมดีซ” เดินหน้าขยายลงทุนเพิ่ม

18 พ.ย. 2567 | 10:00 น.
อัปเดตล่าสุด :18 พ.ย. 2567 | 10:05 น.

เมดีซ กรุ๊ป ชี้เทรนด์ธุรกิจสเต็มเซลล์ทั่วโลกโตต่อเนื่อง ทั้งจีน อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ย้ำ MEDEZE เดินหน้าธุรกิจตามกฎหมาย และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด พร้อมขยายธุรกิจตามแผนระดมทุน IPO

นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า การจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต โดยความก้าวหน้านวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับของการนำไปรักษา

จากบทความของ Global Cord Blood and Tissue Banking Industry Report รายงานว่า   มีงานวิจัยในมนุษย์ หรือ Clinical Trials สำหรับงานวิจัย Cord Blood จำนวน 3,000-5,000 ฉบับต่อปี และจำนวนมากกว่า 500 ฉบับต่อปีสำหรับงานวิจัย Cord Tissue ทั้งนี้แนวโน้มในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น 1%, 3%, 4% และ 6% ของประชากรเกิดใหม่ในแต่ละปีของประเทศจีน, สหรัฐอเมริกา, ยุโรป และญี่ปุ่น ตามลำดับ

นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์

ทั้งนี้ในปัจจุบันมีสัดส่วนธนาคารสเต็มเซลล์ที่เป็นภาครัฐ และเอกชนทั่วโลกอยู่ที่ 14% และ 86% ตามลำดับ โดยมีธนาคารสเต็มเซลล์ของภาครัฐอยู่ที่ 25 แห่งในสหรัฐอเมริกา และ 16 แห่งที่เป็นของเอกชน ในขณะที่ในทวีปยุโรปมีธนาคารสเต็มเซลล์ของภาครัฐอยู่ที่ 25 แห่ง

ในขณะที่ MEDEZE เป็นธนาคารสเต็มเซลล์ ที่ให้บริการและมีการเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้ MEDEZE ได้รับรางวัล Frost&Sullivan และรางวัล "Industry Champions of the Year" จาก Asia Corporate Excellence & Sustainability หรือ ACES ด้วย

ด้านนางสาวอารียา อนันต์วรรักษ์ ที่ปรึกษาทางกฎหมาย บริษัท เอสซีแอล นิซิมูระ แอนด์ อาซาฮี จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางกฎหมายของบริษัท MEDEZE  กล่าวว่า MEDEZE ประกอบธุรกิจตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์ต้นกำเนิด รวมถึงตรวจศักยภาพเซลล์ภูมิคุ้มกัน ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการ ประกอบไปด้วย ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยเซลล์บำบัด และมาตรฐานธนาคารเซลล์

ชี้เทรนด์ธุรกิจ “สเต็มเซลล์” โตเด่น  “เมดีซ” เดินหน้าขยายลงทุนเพิ่ม

โดย MEDEZE ตระหนักถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ  อย่างเคร่งครัด และมีมาตรการในการโฆษณาที่จะไม่ใช้เนื้อหา หรือข้อความที่เป็นการชักจูง หรือเชิญชวนโดยใช้ข้อความโอ้อวดเกินจริง หรือใช้ข้อความอันเป็นเท็จ เพื่อให้คนหลงเชื่อในการเข้าใช้บริการแต่อย่างใด ซึ่งรวมถึงการเตรียมความพร้อมในการดำเนินการต่าง ๆ หากร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยเซลล์บำบัดได้ถูกบังคับใช้อย่างเป็นทางการในอนาคต

นางสาวสุภากาญจน์ กิจโกศล ประธานเจ้าหน้าที่สายบัญชีและการเงิน บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE และนายพิพัฒน์ พิศณุวงรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายบัญชีและการเงิน MEDEZE Treasury PTE. LTD.  กล่าวว่า หลังการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชนเป็นครั้งแรก หรือ IPO MEDEZE ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ เพื่อตอบแทนความไว้วางใจต่อผู้ถือหุ้นทุกคน

ชี้เทรนด์ธุรกิจ “สเต็มเซลล์” โตเด่น  “เมดีซ” เดินหน้าขยายลงทุนเพิ่ม

โดยผลประกอบการงวด 9 เดือนของปี 2567 มีรายได้รวม 630 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% และมีกำไรสุทธิ 240 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% รวมถึงมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 38% โดยสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของฐานลูกค้า และการลดต้นทุนโดยใช้เครื่องเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวนเซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคมอลอัตโนมัติ หรือ Quantum  ที่เข้ามาสนับสนุนการทำหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์