ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลธนบุรี ในเครือ บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ภายหลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลธนบุรี ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ได้เตรียมปรับแผนการบริหารงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพและทำการตลาดให้โรงพยาบาลธนบุรีเป็นที่รู้จักมากขึ้น
จากปัจจุบัน ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนถูกมองว่าเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งแท้จริงแล้วการแข่งขันไม่ใช่กุญแจที่จะทำให้เกิดความยั่งยืน เพราะการจะเป็นโรงพยาบาลทางเลือกที่ดีของประชาชน ถ้าเริ่มต้นด้วยการมองโรงพยาบาลอื่นเป็นคู่แข่งก็ผิดตั้งแต่แรกแล้ว ฉะนั้นโรงพยาบาลธนบุรีจึงจะไม่เป็นคู่แข่งกับใคร แต่จะมองที่โรงพยาบาลอื่นเป็นคู่เทียบในการพัฒนาคุณค่าการให้บริการ เน้นการพัฒนาเพื่อเป็นทางเลือกที่ดีขึ้น
"หัวใจสำคัญของการบริหารโรงพยาบาลยุคปัจจุบัน ไม่ว่ารัฐหรือเอกชน คุณค่าที่สำคัญสุด คือ คุณค่าที่ส่งมอบให้คนไข้ และต้องกำหนดคุณค่าให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายควบคู่กันไปด้วยเสมอ อาทิ คนไข้ต้องได้รับการรักษาที่ดี หายป่วย ถ้าคนไข้มีประกัน การหายป่วยคือกำไร เพราะไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม บริษัทประกันก็ต้องรู้สึกว่าโรงพยาบาลธนบุรีมีคุณค่า คุ้มค่ามาก รวมทั้งบริษัทหรือองค์กรที่จ่ายค่ารักษาบางส่วนให้พนักงานด้วย ถ้าได้รับการดูแลที่ดี องค์กรจะรู้สึกคุ้มค่า"
ขณะเดียวกัน ในมุมของผู้ถือหุ้น โรงพยาบาลต้องอธิบายได้ว่าเอาเงินไปใช้อย่างไรที่ได้ผลตอบแทนที่มีคุณค่า เป็นประโยชน์ต่อสังคม แม้จะกำไรน้อยหน่อย แต่ 'คุณค่า' คือสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นในระยะยาว และการบริหารจึงต้องพิจารณารัดกุมในทุกมิติ รวมทั้งมุมของผู้ป่วยและมุมของผู้เกี่ยวข้อง
ศ.คลินิก นพ.วิศิษฎ์ กล่าวว่า ก้าวใหม่ของโรงพยาบาลธนบุรีจะต้องเป็น The Most trusted and valued คนไข้ไว้ใจการดูแลรักษาได้มากที่สุด โดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถให้การรักษาอย่างมีมาตรฐาน คุ้มค่า มีจริยธรรมการแพทย์และจริยธรรมทางธุรกิจ พร้อมพัฒนาศักยภาพทั้งด้านทีมแพทย์ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีการแพทย์ต่อเนื่อง เพื่อช่วยสร้างประโยชน์ให้กับทุกภาคส่วน บนจุดยืนของการเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ “คุ้มค่า คุ้มราคา เข้าถึงได้” ตามปณิธานของคณะแพทย์ผู้ก่อตั้ง
โดยที่ผ่านมา โรงพยาบาลธนบุรีได้รับความเชื่อถือในวงการแพทย์ว่ามีมาตรฐานการรักษาสูง มีผลลัพธ์การรักษาดี มีจริยธรรมเพราะการตัดสินใจในการรักษา ด้วยการยึดถือข้อมูลทางการแพทย์เป็นสำคัญ ดังนั้น สิ่งที่จะเข้ามาต่อยอดคือคุณภาพการบริการ ระบบงาน และสิ่งแวดล้อมของโรงพยาบาล ซึ่งจะใช้แนวคิดการบริหาร 4 แกนหลัก คือ ปลอดภัยมากขึ้น, คุณภาพดีขึ้น, ประสิทธิภาพมากขึ้น และต้องมีนวัตกรรม
ทั้งนี้ โรงพยาบาลธนบุรี ยังคงลงทุนเพื่อพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อย้ำจุดยืนการเป็นโรงพยาบาลทางเลือกอันดับต้นๆ ที่เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ ทั้งในเชิงป้องกันและรักษา บริการที่ดี ทันสมัย อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ป่วย โดยจะนำ Medical Advancement หรือ วิทยาการความก้าวหน้าทางการแพทย์ และ Digital มาผสานกับมาตรฐานทางการแพทย์ที่เป็นจุดแข็งเดิม
เพื่อขยายขีดความสามารถในการดูแลตั้งแต่ก่อนป่วย และดูแลเฉพาะรายบุคคลได้ตั้งแต่ทารกแรกเกิดจนถึงผู้ป่วยที่อยู่ช่วงวาระสุดท้าย ที่สำคัญระบบใหม่จะช่วยอำนวยความสะดวกด้านบริการ ลดการเสียเวลาทุกขั้นตอนสำหรับผู้ป่วย หรือ ญาติผู้ป่วย
ระบบที่นำมาใช้ คือ Patient Management System ช่วยเพิ่มความสะดวกในการนัดพบแพทย์และการจัดการคิวรอตรวจสำหรับผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องพบแพทย์หลายด้าน และมีโครงการพัฒนาศูนย์ตรวจสุขภาพองค์รวม หรือ Integrative Check Up Center ที่สามารถดูแลต่อเนื่องทั้งชีวิตตั้งแต่เกิด ประเมินได้ว่าบุคคลนั้นมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอะไรตั้งแต่ยังไม่ป่วยเพื่อป้องกันแทนการรักษา
สำหรับการรักษาแบบมุ่งเป้า หรือ เฉพาะเจาะจง เป็นอีกแนวทางหนึ่งในแผนบริหาร เพราะกายภาพผู้ป่วยแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผู้ป่วยมะเร็งแม้เป็นชนิดเดียวกัน แต่การตอบสนองต่อยาก็ไม่เหมือนกัน การรักษาต้องทำเฉพาะบุคคลโดยจะใช้เทคโนโลยีและฐานข้อมูลเข้ามาช่วยวิเคราะห์ หรือ การผ่าตัดข้อเทียมที่จะลงลึกเฉพาะบุคคลได้มากขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติมาช่วยในการออกแบบข้อเทียมที่เหมาะกับโครงสร้างกระดูกของผู้ป่วยรายนั้นได้พอดี
อย่างไรก็ตาม ศ.คลินิก นพ.วิศิษฎ์ กล่าวว่า โรงพยาบาลธนบุรีถือว่าเป็นโรงพยาบาลที่ยังคงความแข็งแกร่งในด้านธุรกิจและมีความมั่นคงสูง ในช่วงต้นปี 2568 ได้เตรียมเปิดอาคารผู้ป่วยนอก (OPD) แห่งใหม่ที่เป็นการลงทุนเทคโนโลยีการแพทย์ทันสมัย พร้อมออกแบบภายใต้แนวทางอาคารสีเขียว ประหยัดพลังงาน มีฟิลเตอร์กรอง PM 2.5 มีระบบคุมอุณหภูมิและคุณภาพอากาศภายในอาคาร รวมถึงปรับปรุงระบบและเปิดศูนย์รักษาตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพ รองรับสังคมผู้สูงอายุ เป็นต้น