ในยุคที่ “สุขภาพ” กลายเป็นคุณค่าพื้นฐานที่ไม่ถูกจำกัดด้วยแนวคิดทางการเมืองหรือวัฒนธรรม การระบาดใหญ่ที่ผ่านมาได้เปลี่ยนแปลงวิธีที่เรามองและให้ความสำคัญกับสุขภาพอย่างสิ้นเชิง Global Wellness Economy Monitor 2024 โดย Global Wellness Institute (GWI) เผยตัวเลขที่น่าทึ่ง ตลาดสุขภาพโลกเติบโตจาก 4.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2020 เป็น 6.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มเป็น 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2028 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ย 7.3% ต่อปี
การเติบโตที่เหนือกว่าอุตสาหกรรมอื่น โดยอุตสาหกรรมสุขภาพมีขนาดใหญ่กว่าอุตสาหกรรมสำคัญระดับโลก เช่น IT, กีฬา และยา รวมถึงเศรษฐกิจสีเขียวที่กำลังมาแรง โดยมีมูลค่ามากกว่า 30% ของธุรกิจสีเขียวในปัจจุบัน และขนาดตลาดสุขภาพยังคิดเป็น 6% ของ GDP โลก ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 5.75% ในปี 2019 สถิติแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของสุขภาพต่อระบบเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในหลากหลายภูมิภาค
GWI คาดการณ์ว่าตั้งแต่ปี 2023 ถึง 2028 อัตราการเติบโตประจำปีของเศรษฐกิจเพื่อสุขภาพจะเร็วขึ้น 7.3% สูงกว่าอัตราการเติบโตของ GDP ทั่วโลกที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.8% อย่างมาก ผู้นำการเติบโตที่คาดการณ์ไว้จนถึงปี 2028 ได้แก่ 1. อสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพ (15.8%) 2. สุขภาพจิต (12.2%) 3. การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (10.2%) 4. น้ำพุร้อนและน้ำแร่ (9.2%) และ 5. การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ โภชนาการ และการลดน้ำหนัก (6.4%) ตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพและตลาดสุขภาพจิตจะมีขนาดเติบโตเกือบสองเท่าภายในปี 2028
ในปีนั้นจะเป็นครั้งแรกที่ตลาดทั้ง 5 กลุ่มจะมีขนาดเกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้แก่ การดูแลส่วนบุคคลและความงาม การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ โภชนาการและการลดน้ำหนัก กิจกรรมทางกาย การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ และการสาธารณสุข การป้องกัน และการแพทย์เฉพาะบุคคล
รายงาน ‘Top Global Consumer Trends 2025’ ของ Euromonitor International ระบุว่า อายุยืนจะเข้ามามีบทบาทในภาคส่วนการดูแลสุขภาพในปี 2025 การสำรวจผู้บริโภคกว่า 4 หมื่นคนของบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าผู้คนกำลังเปลี่ยนแปลงกิจวัตรการดูแลสุขภาพอย่างตั้งใจเพื่ออนาคตที่ดีขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะมีชีวิตที่แข็งแรงขึ้นและยาวนานขึ้น ปัจจุบัน หลายคนเชื่อว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า พวกเขาจะมีสุขภาพดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน (52% เห็นด้วยกับคำกล่าวนี้ เมื่อเทียบกับ 46% ในปี 2023) และนั่นเป็นเพราะว่าพวกเขากำลังลงทุนใน “โซลูชันเฉพาะทางเชิงป้องกัน” ตามรายงาน
โลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี และวิถีชีวิตของผู้คน เทรนด์สุขภาพในปี 2025 กลายเป็นประเด็นที่ทุกคนให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลสุขภาพกาย ใจ หรือสุขภาพสังคม เทรนด์เหล่านี้สะท้อนถึงความต้องการและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบันและอนาคต
ในปี 2025 เทรนด์สุขภาพยังคงเป็นกระแสสำคัญที่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคและอุตสาหกรรมทั่วโลก จากการระบาดใหญ่ที่ผ่านมา ผู้คนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมมากขึ้น ไม่เพียงแต่เพื่อป้องกันโรค แต่ยังรวมถึงการสร้างคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน
1. สุขภาพเชิงป้องกันและการตรวจสุขภาพส่วนบุคคล (Preventive Health & Personalized Medicine) ผู้บริโภคหันมาสนใจการป้องกันโรคมากกว่าการรักษา โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น การตรวจ DNA เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงของโรคทางพันธุกรรม การติดตามสุขภาพผ่านแอปพลิเคชันและอุปกรณ์สวมใส่ที่ให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้
ยังมีบริการตรวจสุขภาพเฉพาะบุคคลที่ปรับให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน
ปี 2024 คนรุ่น Gen Z และคนรุ่นมิลเลนเนียลเป็นกลุ่มผู้ใช้อุปกรณ์นี้มากที่สุด โดยผู้บริโภครุ่น Gen Z 27% สวมอุปกรณ์ติดตาม ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 18% ในปี 2020, 22% ในปี 2022 และ 24% ในปี 2023 ในทำนองเดียวกัน คนรุ่นมิลเลนเนียล 33% สวมอุปกรณ์สวมใส่ในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 27% ในปี 2020, 31% ในปี 2022 และ 29% ในปี 2023 Euromonitor คาดการณ์การเติบโตสองหลักระหว่างปี 2024 ถึง 2026 เนื่องจากผู้บริโภครุ่นเยาว์ติดตามการติดตามสุขภาพเพื่อสร้างกิจวัตรเพื่อสุขภาพที่ดีตั้งแต่เนิ่นๆ
2. อาหารเพื่อสุขภาพและความยั่งยืน (Sustainable Health Food) ปี 2025 จะเห็นการเติบโตของอาหาร Plant-Based และอาหาร Functional Food ที่ตอบโจทย์ความต้องการของร่างกายเฉพาะบุคคล เช่น อาหารเสริมโปรตีนจากพืช เครื่องดื่มเสริมภูมิคุ้มกัน และอาหารที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย นอกจากนี้ อาหารที่มาจากกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก็จะได้รับความนิยมมากขึ้น
3. สุขภาพจิตและการฟื้นฟูสมดุล (Mental Wellness & Recovery) ในปี 2025 สุขภาพจิตยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากวิถีชีวิตที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบและความกดดัน ผู้คนเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการบำบัดสุขภาพจิตผ่านเทคนิคใหม่ ๆ เช่น การทำสมาธิด้วยแอปพลิเคชัน การให้คำปรึกษาออนไลน์ และการใช้ AI เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมและแนะนำแนวทางการปรับตัว
ความเครียดและภาวะหมดไฟที่เพิ่มขึ้นทำให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตมากขึ้น โปรแกรมฟื้นฟูสุขภาพจิต เช่น การทำสมาธิ การบำบัดด้วยเสียง (Sound Therapy) และการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูสมดุลทางอารมณ์จะได้รับความนิยม ในขณะเดียวกัน แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้บริการคำปรึกษาด้านสุขภาพจิตก็จะมีบทบาทมากขึ้น
4. การออกกำลังกายแบบดิจิทัลและความท้าทายส่วนตัว (Digital Fitness & Personal Challenges) การออกกำลังกายแบบออนไลน์ยังคงได้รับความนิยม โดยเฉพาะในกลุ่มที่ต้องการความยืดหยุ่นและประสบการณ์เฉพาะบุคคล การใช้ VR และ AR ในการออกกำลังกายสร้างประสบการณ์ใหม่ เช่น การออกกำลังกายเสมือนในสถานที่ท่องเที่ยว และการแข่งขันกับผู้ใช้ทั่วโลกในรูปแบบเกม
5. เทคโนโลยีการแพทย์ดิจิทัลและ AI (Digital Healthcare & AI Integration) เทคโนโลยีด้านสุขภาพในปี 2025 จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ เช่น การใช้ Wearable Devices
เพื่อติดตามข้อมูลสุขภาพแบบเรียลไทม์ การพัฒนา AI เพื่อวิเคราะห์โรค และการให้บริการสุขภาพทางไกล (Telemedicine) ที่สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น และการใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดที่เพิ่มความปลอดภัยและลดเวลาพักฟื้น
6. ความงามที่มุ่งเน้นสุขภาพ (Holistic Beauty) เทรนด์ความงามที่มุ่งเน้นสุขภาพภายใน เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มาจากธรรมชาติ การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่ช่วยเสริมความงาม และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Inside-Out Beauty) จะเป็นที่สนใจ
7. การพัฒนาสุขภาพในระดับชุมชน นอกจากการดูแลตัวเองแล้ว การพัฒนาสุขภาพในระดับชุมชนก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ได้รับความสนใจ เช่น การสร้างพื้นที่สีเขียว การส่งเสริมการเดินหรือปั่นจักรยานในชีวิตประจำวัน และการสร้างแหล่งเรียนรู้ด้านสุขภาพในชุมชนเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย