8 มกราคม 2568 พญ.มิ่งขวัญ สุพรรณพงศ์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดนกว่า เตรียมผลิตวัคซีนไข้หวัดนกในเดือนมีนาคมนี้ซึ่งในส่วนของประเทศไทยโดย อภ.นั้นเคยผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดนกมาก่อนแล้ว มีศักยภาพ มีความพร้อมในเรื่องนี้แต่เนื่องจากเวลานี้กำลังผลิตวัคซีนโควิดให้กับผู้ว่าจ้างผลิตจากต่างประเทศซึ่งจะเสร็จปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้
จากนั้นในเดือนมีนาคมก็จะผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N2 ล็อตแรกประมาณ 2 แสนโด๊สใช้เวลาประมาณ 2 เดือน หรือประมาณเดือนพฤษภาคม โดยวัคซีนล็อตแรกจะออกมาได้ซึ่งคาดว่า จะเป็นช่วงที่มีการระบาดเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ดี เมื่อถึงเวลานั้นอาจจะไม่มีคนฉีดวัคซีนนี้ก็ได้แต่เป็นการเตรียมพร้อมไว้ก่อนโดยวัคซีนที่ผลิตนี้มีอายุประมาณ 6 เดือนถึง 2 ปี
ส่วนเมื่อผลิตออกมาแล้วบุคคลกลุ่มไหนจะได้รับการฉีดวัคซีนก่อนนั้นทาง คณะกรรมการสร้างเสริมการป้องกันโรคเป็นผู้ประกาศอีกครั้ง ทั้งนี้ ในช่วงที่มีการจดทะเบียนไว้นั้นจะฉีดให้กับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป แต่กรณีฉุกเฉินนั้นก็สามารถฉีดได้ท้้งหมด อย่างไรก็ดี สำหรับวัคซีนไข้หวัดนกอาจจะเป็นกลุ่มของเกษตรกรที่ได้รับการฉีดวัคซีนก่อน เป็นต้น
ทั้งนี้ อภ.คาดการณ์ความเสี่ยงของการระบาดโรคนี้ไม่สูงมากซึ่งมีการเก็บข้อมูลของการระบาดประเทศรอบบ้านเราตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ดังนั้น ทาง อภ.จึงทำโปรเจ็ก แอคทิเวตเรื่องของไข้หวัดนกต่อเนื่องจากเรามี หัวเชื้อ (SEED) ไวรัสเดิมอยู่แล้ว
ถามว่าศักยภาพที่เตรียมไว้ 2 แสนโด๊สจะดับเบิ้ลได้หรือไม่นั้น พญ.มิ่งขวัญ ผอ.องค์การเภสัชกรรมยืนยันว่า สามารถเพิ่มกำลังการผลิตวัคซีนได้ เช่น ทำ 1 ขวด 1 โด๊ส ก็อาจจะขยับทำเป็น 1 ขวด 10 โด๊ส
ถามว่าถ้าเมื่อผลิตออกมาแล้วหากสายพันธุ์ที่ระบาดมีการเปลี่ยนแปลงไปวัคซีนที่ผลิตออกมาแล้วจะสามารถป้องกันได้หรือไม่นั้น ผอ.องค์การเภสัชฯ กล่าวยอมรับว่า ไม่แน่ใจ เหมือนกับกรณีของวัคซีนโควิดที่ผลิตออกมาแล้ว โควิดกลายเป็นสายพันธุ์โอมิครอน อย่างไรก็ดี หากมีการประกาศว่ามีการระบาดเกิดขึ้นทางก็จะส่ง SEED มาให้เหมือนตอนที่มีการระบาดของโควิด