ตลาดเวชสำอางโตแรง "สมูทอี" ดัน 3 กลยุทธ์ ขยายฐานลูกค้า-รุกตลาดต่างประเทศ

08 ม.ค. 2568 | 09:01 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ม.ค. 2568 | 10:39 น.

"สมูทอี" เผยตลาดเวชสำอาง 1.5 หมื่นล้านโตแรง ทุ่ม 200 ล้าน ปี 2568 พลิกโฉมแบรนด์ครั้งใหญ่ พร้อมเดินหน้า 3 กลยุทธ์ เปิดตัว "หลิง-ออม" ขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ เข้าถึงกลุ่ม Gen Z และรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น

นายธนชัย ชัยกิตติวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สมูทอี บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดเวชสำอางของไทยหรือ เดอร์มาสกินแคร์ มีมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท เติบโตแรงอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และแบรนด์สมูทอีก็เป็นหนึ่งในนั้นที่มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ราว 9% โดยในปี 2567 มียอดขาย 900 ล้านบาท ขณะที่ปี 2568 ได้ทุ่มงบ 200 ล้านบาท พลิกโฉมแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี เปิดตัวนวัตกรรมเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น พร้อมได้ “หลิงหลิง ศิริลักษณ์ คอง” และ “ออม กรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์” มาเป็นพรีเซนเตอร์ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มใหม่ทุกเจนเนอร์เรชั่นตั้งแต่ Gen X, Gen Y และขยายฐานสู่ Gen Z ตลอดจนลูกค้าในต่างประเทศ

ตลาดเวชสำอางโตแรง \"สมูทอี\" ดัน 3 กลยุทธ์ ขยายฐานลูกค้า-รุกตลาดต่างประเทศ

“จากงบลงทุนกว่า 90% ของสมูทอีในปี 2568 เราจะโฟกัสไปยังด้านดิจิทัลเป็นหลัก ทำให้แบรนด์แข็งแกร่งมากขึ้น และตั้งเป้าหมายการเติบโตขึ้น 2 หลัก เราเป็น Medical Skincare หรือแบรนด์เวชสำอางที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคชาวไทยมากกว่า 30 ปี มีนวัตกรรมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ โดยกลุ่มทีมงานเภสัชกรและผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและยา ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค”

สำหรับ 3 กลยุทธ์หลักของสมูทอีมีดังนี้

  1. ทำให้ผลิตภัณฑ์เป็น Medical Skin Care Icons 
  2. ขยายกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุม ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เห็นผลจริง พิสูจน์ได้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ
  3. ผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามที่คาดหวังว่าจะเติบโต 2 หลัก

ตลาดเวชสำอางโตแรง \"สมูทอี\" ดัน 3 กลยุทธ์ ขยายฐานลูกค้า-รุกตลาดต่างประเทศ

นายธนชัย กล่าวว่า นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ของสมูทอี จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่อยากจะสวยสุขภาพดีอย่างยั่งยืน โดยสมูทอียังคงรักษามาตรฐาน เพื่อครองใจผู้บริโภคที่มีผิวบอบบางในวงกว้าง พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดเมดิคอลสกินแคร์ในประเทศไทย และเป็นแบรนด์ไทยที่ทัดเทียมกับแบรนด์ต่างประเทศได้ ซึ่งแบรนด์ไทยในตลาดจะมีสัดส่วนอยู่ประมาณ 80%

ด้าน เภสัชกรศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า นอกจากนี้สมูทอียังได้นำเสนอวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อผิวบอบบาง ด้วยนเซรั่มกันแดดที่มีส่วนผสมของแอสตาแซนธินครั้งแรกในประเทศไทย และยังวางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์เอสเซนเชียลแคร์ในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งจะสามารถตอบสนองเทรนด์ของผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ได้

ตลาดเวชสำอางโตแรง \"สมูทอี\" ดัน 3 กลยุทธ์ ขยายฐานลูกค้า-รุกตลาดต่างประเทศ

ทั้งนี้ “หลิง-ออม” สองนักแสดงสาวดาวรุ่ง จะเป็นพรีเซนเตอร์ที่สามารถทำให้คนนึกถึงสมูทอีได้ ด้วยมีฐานแฟนคลับที่จะขยานฐานผู้บริโภคไปสู่กลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น และพร้อมขยายตัวสู่ตลาดโลกไปยังจีน เวียดนาม มาเลเซีย และประเทศอื่นๆ ในอนาคต ซึ่งแนวโน้มสกินแคร์แบรนด์ไทยในตลาดต่างประเทศจะเริ่มมีมากขึ้น และสามารถก้าวไปสู่ระดับโลก