มาตรการกำกับการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์เพื่อดับร้อนหุ้น JTS ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2564 ซ้ำแล้วซ้ำเล่ายังทำอะไรหุ้น JTS ไม่ได้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ก.พ.65 ตลท.ออกเตือนให้ผู้ลงทุนพิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบ ก่อนเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองเงินดิจิทัล หลังพบสภาพมีลักษณะเก็งกำไรสูง หลังจากเมื่อวันที่11 ก.พ.65 ก.ล.ต.ได้ออกข่าวเตือนผู้ถือหุ้น บมจ.จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น หรือ JTS ให้ไปใช้สิทธิโหวตวาระลงทุนเพิ่มในธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ หลัง IFA เห็นว่า โครงการดังกล่าวมีความเสี่ยงที่บริษัทไม่สามารถควบคุม และเห็นว่าไม่ควรอนุมัติ
หุ้น JTS ดันมาร์เก็ตพุ่ง 1.9 แสนล้าน
ฐานเศรษฐกิจตรวจสอบพบว่า JTS ในช่วงเวลาปีเศษ ราคาหุ้น JTS ปรับตัวขึ้นออลไทม์ไฮอย่างต่อเนื่อง โดยปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 238 บาท เมื่อวันที่ 4 ก.พ.65 และล่าสุดเมื่อ14 ก.พ.65 ทำนิวไฮที่ 276 บาท ก่อนปิดที่ราคา 268.00 บาท หรือปรับตัวมากกว่า 13,786% เทียบจากสิ้นปี 63 ที่ราคาหุ้นละ 1.93 บาท ส่งผลให้มูลค่ามาร์เก็ตแคป JTS วันนี้พุ่งแตะระดับ 189,331 แสนล้านบาท จากสิ้นปี 63 ที่มีมูลค่าเพียง 1,363.46 ล้านบาท ท่ามกลางค่า พี/อี เรโช พุ่งแตะระดับ 1,137.35 เท่า จาก ณ สิ้นปี 63 อยู่ระดับ 47 เท่า
ผลประกอบการบริษัทย้อนหลัง 3 ปี ( ปี 61- 63) จากที่อยู่ในระดับหลักร้อยล้าน คือมีรายได้ 142.58 ล้านบาท ,116.45 ล้านบาท และ 309.94 ล้านบาท ตามลำดับ เพิ่มก้าวกระโดดเป็น 1,358.86 ล้านบาท ในช่วง 9 เดือนแรกปี 64 เนื่องจากบริษัทเริ่มรับรู้รายได้ใหม่จากธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ ดันกำไรสุทธิบริษัทจากปี 61-63 ที่มีกำไรเพียง 15.15 ล้านบาท , 6.14 ล้านบาทและ 44.17 ล้านบาท ตามลำดับ เพิ่มก้าวกระโดดเป็น 150.45 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 64 โดยเฉพาะไตรมาส 3/64 บริษัททำกำไร 102.90 ล้านบาท โตเพิ่ม 176% จากไตรมาส2/64
ผงาดขึ้นแท่นธุรกิจขุดเหมืองบิทคอยน์ในไทย
ราคาหุ้น JTS ที่ถูกลากขึ้นมากกว่า 13,000% นักวิเคราะห์ คาดกันว่ามาจากกระแสข่าวการเดินหน้าธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ ที่บริษัทฯ เริ่มรับรู้กำไรตั้งแต่กลางปี 2564 โดยในที่ผ่านมาบริษัทได้จัดซื้อเครื่องขุดบิดคอยน์และเริ่มดำเนินการไปแล้วกว่า 300 เครื่อง และตามแผนในปี 2565 บริษัทจะลงทุนเพิ่มเครื่องขุดบิทคอยน์อีก 6,300 เครื่อง ใช้งบลงทุน 3,300 ล้านบาท
โดยทำสัญญาจัดซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์แล้วจํานวน 1,800 เครื่อง มูลค่า 741.60 ล้านบาท จากบริษัท พรีเมียม แอสเซท จํากัด (Premium Asset) บริษัทย่อยในกลุ่มบมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งรายการซื้อขายและการชําระราคา จะเกิดขึ้นต่อเมื่อได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น (ประชุมผู้ถือหุ้น 22 ก.พ.) โดยคาดว่าจะสามารถซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์ ภายในเดือน ก.พ.65 และดําเนินการได้ภายในช่วงเดือน ก.ค.65 เป็นต้นไป ส่วนแผนการจัดซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์ตามแผนการลงทุนปี 65 อีก 4,500 เครื่อง มูลค่าลงทุนไม่เกิน 2,558.40 ล้านบาท จะจัดซื้อจากผู้ผลิตโดยตรง คาดจะเริ่มดําเนินการจัดซื้อในช่วงเดือน มี.ค.2565 เป็นต้นไป
JTS ตั้งเป้าหมายว่าการเป็นผู้ประกอบธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์รายใหญ่ในประเทศไทย โดยเชื่อว่าลงทุนเพิ่มในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ ด้วยงบลงทุนกว่า 3,300 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการออกหุ้นกู้ 4,000 ล้านบาท จะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆให้กับทางกลุ่มในอนาคต
ส่องหุ้น JTS ในมือ"พิชญ์ โพธารามิก"
หุ้น JTS พุ่งทะลุไปกว่า 13,000% วันนี้อยู่ในมือใครบ้าง จากโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรก ของบริษัท ณ วันที่ 5 ม.ค.65
เสี่ยพิชญ์ ถือหุ้นใน JTS สัดส่วน 9.06% เมื่อรวมกับ บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนลหรือ JAS ที่ถือใน JTS 32.39% ซึ่งเสี่ยพิชญ์ ถือหุ้นใหญ่ JAS สัดส่วน 53.21% จึงเท่ากับเสี่ยพิชญ์ ถือหุ้น JTS ส่วนนี้ผ่าน JAS อีกราว17.45%
นอกจากนี้หากรวมกับการถือหุ้นทางอ้อมที่ JAS ถือหุ้น JTS ผ่านบริษัท เอเซียส รีเยนแนล เซอร์วิส จำกัด หรือ ARS ( ตามตารางผู้ถือหุ้น ) ( ARS ถือหุ้นโดย บริษัท เอเซียส (ประเทศไทย) (ACT) 98.04 % และ ACT ถือหุ้นโดย บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่่นแนล โอเวอร์ซีส์ จำกัด (JIOC”) 58.84% และ JAS ถือหุ้นใน JIOC 39.82% )
รวมกับหุ้นในส่วนบริษัท ที.เจ,พี. เอ็นจิเนียริ่่ง จำกัด (“TJP”) ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 ใน JTS ซึ่ง TJP เป็นบริษัทย่อยของ JAS โดยถือหุ้น 80% และบริษัท อคิวเมนท์ จำกัด (“ACU”) (บริษัทในเครือของ JAS) ถือหุ้น 20%
คำนวณเบ็ดเสร็จแล้ว เสี่ยพิชญ โพธารามิก ถือหุ้นใน JTS ทั้งสิ้นราว 222.26 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 31.46% เป็นมูลค่ารวม 59,566 ล้านบาท ( คำนวณจากราคา ปิด ณ 14 ก.พ.65 หุ้นละ 268 บาท )
รวมพอร์ตหุ้นในมือ เสี่ยพิชญ์ ถือใน JAS สัดส่วน 53.21% มูลค่า 16,918 ล้านบาท ( คำนวณจากราคาปิด วันที่ 14 ก.พ.65 หุ้นละ 3.70 บาท ) และหุ้น บมจ. โมโน เน็กซ์ (MONO) ถือ 65.91% มูลค่า 5,948 ล้านบาท ( คำนวณจากราคา ปิด14 ก.พ.65 หุ้นละ 2.60 บาท )
ความมั่งคั่งของ เสี่ยพิชญ์ วันนี้เหยียบแตะ 82,432 ล้านบาท เป็นรองก็แค่ "เสี่ยกลาง สารัชถ์ รัตนาวะดี" คงต้องดูกันต่อไปว่า ธุรกิจใหม่ JST "เหมืองขุดบิทคอยน์" ในมือบริหารของ เสี่ยพิชญ์ ท่ามกลางความเสี่ยงจากราคาบิทคอยน์ที่ผันผวนและภาระหนี้สิน การประคองราคาหุ้น JTS เสี่ยพิชญ์ ยังมีทีเด็ดอะไร ?