ส่องหุ้นร้อน "JTS" ในมือเสี่ย"พิชญ์ โพธารามิก" มั่งคั่งเฉียด 6 หมื่นล้าน

15 ก.พ. 2565 | 02:33 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ก.พ. 2565 | 09:36 น.

JTS กับก้าวของการขึ้นแท่นผู้นำธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์รายใหญ่ของไทย หลังจากเริ่มรับรู้รายได้เมื่อปี 64 ท่ามกลางราคาหุ้น JTS ที่ยังร้อนแรงปรับทำออลไทม์นิวไฮ ฐานเศรษฐกิจพาไป ส่องความมั่งคั่ง"พิชญ์ โพธารามิก"หุ้น JTS ที่ถือ

มาตรการกำกับการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์เพื่อดับร้อนหุ้น JTS ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2564 ซ้ำแล้วซ้ำเล่ายังทำอะไรหุ้น JTS ไม่ได้  ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ก.พ.65  ตลท.ออกเตือนให้ผู้ลงทุนพิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบ ก่อนเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองเงินดิจิทัล หลังพบสภาพมีลักษณะเก็งกำไรสูง หลังจากเมื่อวันที่11 ก.พ.65 ก.ล.ต.ได้ออกข่าวเตือนผู้ถือหุ้น บมจ.จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น หรือ JTS ให้ไปใช้สิทธิโหวตวาระลงทุนเพิ่มในธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ หลัง IFA เห็นว่า โครงการดังกล่าวมีความเสี่ยงที่บริษัทไม่สามารถควบคุม และเห็นว่าไม่ควรอนุมัติ

 

หุ้น JTS ดันมาร์เก็ตพุ่ง 1.9 แสนล้าน

 

ฐานเศรษฐกิจตรวจสอบพบว่า  JTS ในช่วงเวลาปีเศษ ราคาหุ้น JTS   ปรับตัวขึ้นออลไทม์ไฮอย่างต่อเนื่อง  โดยปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 238 บาท เมื่อวันที่ 4 ก.พ.65 และล่าสุดเมื่อ14 ก.พ.65 ทำนิวไฮที่ 276 บาท ก่อนปิดที่ราคา  268.00 บาท หรือปรับตัวมากกว่า 13,786% เทียบจากสิ้นปี 63 ที่ราคาหุ้นละ 1.93 บาท  ส่งผลให้มูลค่ามาร์เก็ตแคป JTS วันนี้พุ่งแตะระดับ 189,331  แสนล้านบาท จากสิ้นปี 63 ที่มีมูลค่าเพียง 1,363.46 ล้านบาท  ท่ามกลางค่า พี/อี เรโช พุ่งแตะระดับ 1,137.35 เท่า  จาก ณ สิ้นปี 63 อยู่ระดับ 47 เท่า 

ผลประกอบการบริษัทย้อนหลัง 3 ปี ( ปี 61- 63) จากที่อยู่ในระดับหลักร้อยล้าน  คือมีรายได้ 142.58 ล้านบาท ,116.45 ล้านบาท และ 309.94 ล้านบาท ตามลำดับ  เพิ่มก้าวกระโดดเป็น 1,358.86 ล้านบาท ในช่วง 9 เดือนแรกปี 64 เนื่องจากบริษัทเริ่มรับรู้รายได้ใหม่จากธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์  ดันกำไรสุทธิบริษัทจากปี 61-63 ที่มีกำไรเพียง 15.15 ล้านบาท , 6.14 ล้านบาทและ 44.17 ล้านบาท ตามลำดับ  เพิ่มก้าวกระโดดเป็น 150.45  ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 64  โดยเฉพาะไตรมาส 3/64 บริษัททำกำไร 102.90 ล้านบาท โตเพิ่ม 176% จากไตรมาส2/64  

 

ผงาดขึ้นแท่นธุรกิจขุดเหมืองบิทคอยน์ในไทย

 

ราคาหุ้น JTS ที่ถูกลากขึ้นมากกว่า 13,000% นักวิเคราะห์ คาดกันว่ามาจากกระแสข่าวการเดินหน้าธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ ที่บริษัทฯ เริ่มรับรู้กำไรตั้งแต่กลางปี 2564  โดยในที่ผ่านมาบริษัทได้จัดซื้อเครื่องขุดบิดคอยน์และเริ่มดำเนินการไปแล้วกว่า 300 เครื่อง และตามแผนในปี 2565 บริษัทจะลงทุนเพิ่มเครื่องขุดบิทคอยน์อีก 6,300 เครื่อง ใช้งบลงทุน 3,300 ล้านบาท

 

โดยทำสัญญาจัดซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์แล้วจํานวน 1,800 เครื่อง มูลค่า 741.60 ล้านบาท จากบริษัท พรีเมียม แอสเซท จํากัด (Premium Asset) บริษัทย่อยในกลุ่มบมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งรายการซื้อขายและการชําระราคา จะเกิดขึ้นต่อเมื่อได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น (ประชุมผู้ถือหุ้น 22 ก.พ.)  โดยคาดว่าจะสามารถซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์ ภายในเดือน ก.พ.65 และดําเนินการได้ภายในช่วงเดือน ก.ค.65 เป็นต้นไป  ส่วนแผนการจัดซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์ตามแผนการลงทุนปี 65 อีก 4,500 เครื่อง มูลค่าลงทุนไม่เกิน 2,558.40 ล้านบาท จะจัดซื้อจากผู้ผลิตโดยตรง คาดจะเริ่มดําเนินการจัดซื้อในช่วงเดือน มี.ค.2565 เป็นต้นไป
 

JTS ตั้งเป้าหมายว่าการเป็นผู้ประกอบธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์รายใหญ่ในประเทศไทย  โดยเชื่อว่าลงทุนเพิ่มในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ ด้วยงบลงทุนกว่า 3,300 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการออกหุ้นกู้ 4,000 ล้านบาท จะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆให้กับทางกลุ่มในอนาคต

 

ส่องหุ้น JTS ในมือ"พิชญ์ โพธารามิก" 

 

หุ้น JTS พุ่งทะลุไปกว่า 13,000% วันนี้อยู่ในมือใครบ้าง  จากโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรก ของบริษัท ณ วันที่ 5 ม.ค.65 

 

เสี่ยพิชญ์  ถือหุ้นใน JTS สัดส่วน 9.06% เมื่อรวมกับ บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนลหรือ JAS ที่ถือใน JTS  32.39%  ซึ่งเสี่ยพิชญ์ ถือหุ้นใหญ่ JAS สัดส่วน 53.21%  จึงเท่ากับเสี่ยพิชญ์ ถือหุ้น JTS ส่วนนี้ผ่าน JAS อีกราว17.45%  

 

นอกจากนี้หากรวมกับการถือหุ้นทางอ้อมที่ JAS ถือหุ้น JTS ผ่านบริษัท เอเซียส รีเยนแนล เซอร์วิส จำกัด หรือ ARS  ( ตามตารางผู้ถือหุ้น ) ( ARS ถือหุ้นโดย บริษัท เอเซียส (ประเทศไทย) (ACT)  98.04 % และ ACT ถือหุ้นโดย บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่่นแนล โอเวอร์ซีส์ จำกัด (JIOC”) 58.84% และ JAS ถือหุ้นใน JIOC 39.82% ) 

 

 รวมกับหุ้นในส่วนบริษัท ที.เจ,พี. เอ็นจิเนียริ่่ง จำกัด (“TJP”) ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 ใน JTS  ซึ่ง TJP เป็นบริษัทย่อยของ JAS โดยถือหุ้น 80% และบริษัท อคิวเมนท์ จำกัด (“ACU”) (บริษัทในเครือของ JAS) ถือหุ้น 20%

 

คำนวณเบ็ดเสร็จแล้ว  เสี่ยพิชญ โพธารามิก ถือหุ้นใน JTS ทั้งสิ้นราว 222.26 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 31.46% เป็นมูลค่ารวม 59,566 ล้านบาท ( คำนวณจากราคา ปิด ณ 14 ก.พ.65 หุ้นละ  268 บาท )

 

รวมพอร์ตหุ้นในมือ เสี่ยพิชญ์ ถือใน  JAS สัดส่วน 53.21% มูลค่า 16,918 ล้านบาท ( คำนวณจากราคาปิด วันที่ 14 ก.พ.65 หุ้นละ 3.70 บาท ) และหุ้น บมจ. โมโน เน็กซ์ (MONO) ถือ  65.91% มูลค่า 5,948 ล้านบาท ( คำนวณจากราคา ปิด14 ก.พ.65 หุ้นละ 2.60 บาท )

 

ความมั่งคั่งของ เสี่ยพิชญ์ วันนี้เหยียบแตะ 82,432 ล้านบาท เป็นรองก็แค่ "เสี่ยกลาง  สารัชถ์ รัตนาวะดี" คงต้องดูกันต่อไปว่า ธุรกิจใหม่ JST  "เหมืองขุดบิทคอยน์" ในมือบริหารของ เสี่ยพิชญ์  ท่ามกลางความเสี่ยงจากราคาบิทคอยน์ที่ผันผวนและภาระหนี้สิน  การประคองราคาหุ้น JTS  เสี่ยพิชญ์ ยังมีทีเด็ดอะไร  ?
 

 

ส่องหุ้นร้อน \"JTS\" ในมือเสี่ย\"พิชญ์ โพธารามิก\" มั่งคั่งเฉียด 6 หมื่นล้าน