แหล่งข่าววงการค้าพืชไร่ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในวันพรุ่งนี้ (28 ก.พ.65) ทางบริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์ได้ส่งผ่านแอพลิเคชั่นไลน์ ว่าในวันพรุ่งนี้จะเป็นวันแรกในการปรับราคาอาหารสัตว์ทุกชนิด 50 สตางค์ ถึง 1.00บาท/กิโลกรัม และ วันที่ 1 มีนาคม 2565 ปรับราคาอาหารสัตว์ทุกโรงงานอย่างพร้อมเพียง จากสภาวะตลาดการเปลี่ยนแปรงและทิศทาง จะบอกว่าใกล้จะถึงจุดอิ่มของผู้ซื้อ
แต่ก็มีบางอย่างมาขั้นกลางสถานการณ์การรบของ “รัสเซียกับยูเครน" ก็ทำให้โกลาหลไม่เบาอาจจะหยุดการเปลี่ยนก็ได้ วัตถุดิบต่างประเทศก็พอมีอิทธิพลพอสมควร ก็ซึ่งเป็นปัจจัยหลักเช่นกันกับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อนบ้าน อาทิ สปป.ลาว ก็ยังเป็นปัญหามากมายข้าวโพดไม่พอที่จะใช้จึงหันมาใช้มันเส้นเสริมขึ้นและใช้มากขึ้น แต่ก็ยังหาทิศทางเอาข้าวโพดทางเมีนนมาเข้าไปช่วยพอจะบรรเทาไปได้บ้าง
แต่เรื่องมันก็กำลังจะจางหายไปเกิดจากปริมาณเพื่อนบ้านเข้ามาแย่งซื้อทั้งมันหัวและมันเส้น ก็ยังมี จีน,เวียดนาม,ไทย ส่วนไทยค่อนข้างจะเป็นหลักเพราะส่งออกไปมากๆ ส่วนของกัมพูชส ก็เช่นข้าวโพดเหลือน้อยลงมาก เนื่องจากสภาวะของเวียดนามขาดแคลนตั้งแต่เดือนตุลาคมมาจนถึงปัจจุบัน ผลผลิตกัมพูชา ข้าวโพดปลูกน้อยกว่ามันมากๆก็ทำให้ในจังหวะนี้ก็ขาดแคนพอสมควรอาหารสัตว์ต้องมาใช้มันเป็นหลักมากกว่าข้าวโพด
แต่ตอนนี้ก็มีข้าวโพดหลังนาคล้ายๆกับทางไทย แต่ไม่มากเพราะต้นทุนสูงกว่าต้นทุนมันจะเริ่มออกกลางเดือนมีนาคมเป็นต้นไป ตอนนี้เรากับมาดูทางไทยบ้านเราบ้าง ในระยะเวลาที่เปิดด่านของทางเมียนมา ราคาซื้อขายกันในราคาที่เปิดด่าน140/ถัง จนถึงตอนนี้150-157 ต่อ ถัง การเสนอซื้อเสนอขายก็น่ากลัวมากฉีกแนวมาตั้งแต่วันแรกโดยราคา 9.80 บาท/กิโลกรัม กับ ความชื้น15%-15.5% ไม่ตัดความชื้นและเม็ดเสีย แต่ตอนนี้มาล่าสุด 10.60 บาทต่อกิโลกรัม ความชื้น16%ไม่ตัด ความรุนแรงของผู้ขายที่มีจุดประสงค์กับผู้นำภายใน ซึ่งมีกลเกมให้เล่นกันตลอดทุกมุม
“เรามาดูความเสี่ยงของพ่อค้ากันอยากถามว่าอาหารสัตว์เวลานี้ก็ได้ราคาอาหารไปแบบสบายแล้วจะมีอะไรต่อไหม ภาษี 3/1คงจะไม่เอาไปด้วยนะ และราคาก็จะทรงๆไว้ให้บ้าง เพราะพ่อค้าช่วงนี้ทำงานหนักมากๆ ต่อสู้กว่าฟันอุปสรรคมากมาย ก็ขอให้ยืนหยัดกันด้วยอันยาวให้นานๆ"