ชุมชนเล็กๆ แห่งนี้ เป็นชุมชนที่มีความงดงามตามธรรมชาติ ด้วยภูมิประเทศส่วนใหญ่ที่เป็นป่าสมบูรณ์ มีภูเขาสลับซับซ้อน มีห้วยน้ำไหลผ่าน คนในชุมชนส่วนใหญ่จึงดำเนินอาชีพเกษตรกรรม และเลี้ยงสัตว์ ยิ่งเมื่อ SCG เข้ามาช่วยผลักดันชุมชนเมืองมาย สู่ชุมชนเชิงนิเวศ ต้นแบบเมืองนิเวศ (ECO CITY) ตั้งแต่ปี 2562 ก็ยิ่งทำให้ชุมชนแห่งนี้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
ชุมชนเมืองมาย มีการปฏิบัติที่โดดเด่น 4 เรื่องหลัก คือ 1. ต้นทุนทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยการส่งเสริมการปลูกไผ่ ส่งเสริมการรักษาทรัพยากรป่าไม้ และการทำฝาย เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดิน และต่อยอดไปถึงการกักเก็บน้ำสำหรับเกษตรกรรม 2. การลดมลพิษ ด้วยการจัดการขยะครัวเรือนตั้งแต่ต้นทาง ส่งเสริมให้มีธนาคารขยะ ต่อยอดด้วยการหมุนเวียนสร้างคุณค่าขยะตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน เช่น การนำถุงกาแฟหรือถุงนมมาทำความสะอาด และแปรรูปเป็นกระเป๋า ผ้ากันเปื้อน นำฝากระป๋องน้ำอัดลมมาประดิษฐ์เป็นกิ๊บติดผม นำเศษอะไหล่และเศษเหล็ก มาต่อเป็นหุ่นยนต์ รวมถึงการรับซื้อฟางข้าวและแกลบจากชุมชน เพื่อนำมาเป็นพลังงานทดแทนในโรงงาน ซึ่งช่วยลดการเผาทิ้งได้กว่า 4,316 ตัน
3. ส่งเสริมคุณภาพชีวิต พัฒนาที่ดินทำกิน ส่งเสริมอาชีพกลุ่มวิสาหกิจชุมชนตะกร้าจักสานเมืองมาย การส่งเสริมสาธารณสุขชุมชน ตลอดจนการเชื่อมโยงให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยว และ 4. การป้องกันภัยภิบัติ โดยชุมชนได้ร่วมร่างแผนป้องกันภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วมและดินถล่ม กับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เพื่อเตรียมพร้อมรับมือ
ความงดงามเหล่านี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์ จำกัด ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี และสผ. และที่ขาดไม่ได้คือ คนชุมชนเมืองมาย เมืองนิเวศแห่งนี้นอกจากรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังกลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวของคนรักธรรมชาติ ชื่นชอบวิถีชีวิตชุมชนอีกด้วย
หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,695 วันที่ 11 - 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2564