"มิตรผล" เผย 8 กลยุทธ์ ฝ่าวิกฤติโควิด -19

18 ส.ค. 2564 | 09:16 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ส.ค. 2564 | 16:25 น.

"มิตรผล" เผย 8 กลยุทธ์เสริมภูมิคุ้มกัน พาองค์กรสู้วิกฤติ COVID-19 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้คู่ค้าและผู้บริโภค

ท่ามกลางสถานการณ์ COVID-19 ของไทยที่ยังคงไม่คลี่คลายและยังทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน ส่งผลให้หลายภาคส่วนมีความกังวลในการวางแผนรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต กลุ่มมิตรผล ผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่อันดับ 5 ของโลก และอันดับ 1 ของไทย ซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารมานานกว่า 60 ปี ตระหนักถึงวิกฤตินี้ และพร้อมเป็นหนึ่งในองค์กรที่เคียงข้างคนไทยฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกัน วันนี้ กลุ่มมิตรผลได้เผยแนวทางสร้าง 8 ภูมิคุ้มกันที่จะช่วยให้องค์กรสู้วิกฤติ COVID-19 เพื่อสร้างความมั่นใจด้านคุณภาพสินค้า รวมถึงความปลอดภัยให้กับคู่ค้าและผู้บริโภคอย่างเร่งรัด และรวดเร็ว ที่ประกอบไปด้วย

 

1. สร้างภูมิคุ้มกันให้กับธุรกิจ ด้วยแผนการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Management : BCM) เปรียบเสมือนการฉีดวัคซีนให้ร่างกายเพื่อสร้างภูมิต้านทาน การมีแผน BCM ที่ดีจะช่วยป้องกันไม่ให้ธุรกิจต้องหยุดชะงักลงในกรณีที่เกิดเหตุวิกฤติ ซึ่งกลุ่มมิตรผลได้ฝึกซ้อมและปรับปรุงแผน BCM ให้ทันต่อสถานการณ์พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ทำให้เมื่อเกิดวิกฤติ COVID-19 ในครั้งแรก มิตรผลสามารถตั้งรับและปรับตัวได้เร็ว โดยมีมาตรการให้พนักงานปฏิบัติงานจากที่พัก (WFH) ได้ทันที และเปลี่ยนระบบการทำงานเป็นแบบ Online เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ

 

2. สร้างภูมิคุ้มกันทางร่างกายให้บุคลากรในองค์กร ด้วยการส่งเสริมการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 และจัดหาวัคซีนให้กับพนักงานและผู้ที่ทำงานใกล้ชิด เช่น ชาวไร่อ้อย และพนักงาน Outsource รวม 6,000 คน ใน 20 จังหวัดมูลค่า 14 ล้านบาท โดยได้ดำเนินการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้พนักงานและผู้ที่ทำงานใกล้ชิดทั้งหมดแล้ว และจะฉีดวัคซีนเข็มที่สองครบในเดือนกันยายน นอกจากนี้ ยังคงเดินหน้าจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่และปกป้องดูแลสังคมไทย

3. สร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้ทุกคน ด้วยการสื่อสารกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน คู่ค้า ลูกค้า ชาวไร่อ้อยอย่างต่อเนื่องในสถานการณ์วิกฤติ เช่น สื่อสารกับพนักงานด้วยสารจากผู้บริหาร เพื่อให้พนักงานมั่นใจว่าจะได้รับการดูแลให้มีความปลอดภัยระหว่างปฏิบัติงาน รวมทั้งมีความมั่นคงในอาชีพการงาน ไม่มีการเลิกจ้างและยังจ่ายเงินเดือนเต็มจำนวน มีการทำประกัน COVID-19 ให้พนักงาน นอกจากนี้ ยังต้องสื่อสารให้ความมั่นใจกับคู่ค้า ลูกค้า และชาวไร่อ้อย ถึงแนวทางการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในสถานประกอบการอย่างเข้มงวดพร้อมทั้งให้กำลังใจและให้ร่วมสู้ไปด้วยกัน

 

4. สร้างภูมิคุ้มกันให้จุดยุทธศาสตร์ของธุรกิจ เพื่อให้โรงงานสามารถดำเนินงานได้ต่อเนื่อง ด้วยการสร้าง Bubble & Seal เป็นชั้นๆ แบ่งกลุ่มพนักงานที่ปฏิบัติงานอยู่ภายในโรงงานออกเป็นกลุ่มย่อยๆ กลุ่มเล็กๆ ไม่มีการพบกันระหว่างกลุ่มหรือกะ เพื่อช่วยป้องกันบุคคลากรของเราไม่ให้ติดเชื้อ และเพื่อให้มั่นใจว่าการผลิตของเรายังคงเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีการตรวจคัดกรองพนักงานด้วย Rapid Antigen Test Kit เป็นระยะ

 

5. สร้างภูมิคุ้มกันเพิ่มอีกชั้นในกรณีที่เกิดเหตุ ด้วยการจัดตั้ง Factory Isolation เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายสู่ชุมชนหรือสังคมภายนอก วิธีนี้จะช่วยให้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและ

มีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบัน โรงงานในกลุ่มของมิตรผลทั้งหมดได้จัดเตรียมพื้นที่สำหรับ Factory Isolation ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขไว้เรียบร้อยแล้ว

 

6. สร้างภูมิคุ้มกันด้วยอาหารสมอง ส่งเสริมให้พนักงานเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ตลอดเวลา ผ่านหลักสูตรการเรียนออนไลน์ที่พนักงานกลุ่มมิตรผลสามารถเรียนที่ไหนหรือเมื่อไหร่ก็ได้ เพื่อ Reskill-Upskill อย่างต่อเนื่อง เป็นโอกาสที่ดีที่พนักงานจะได้ใช้เวลาในการพัฒนาตัวเอง สร้างไอเดีย โอกาสใหม่ๆ ให้กับองค์กรและธุรกิจ เหมือนที่เรารับประทานวิตามินเสริมกันนั่นเอง

 

7. สร้างภูมิคุ้มกันทางร่างกายให้ทัพด่านหน้าสู้วิกฤติอย่างปลอดภัย ด้วยการมอบอุปกรณ์การแพทย์และความช่วยเหลือด้านสาธารณสุขทั่วประเทศ ผ่านการดำเนินงานของกองทุนมิตรผล-บ้านปู รวมใจช่วยไทย สู้ภัย COVID-19 ที่จัดตั้งขึ้นทันทีที่ประเทศไทยพบกับวิกฤติ COVID-19 ครั้งแรก ด้วยการระดมทุนจากกลุ่มมิตรผลและบ้านปูฯ บริษัทละ250 ล้านบาท รวม 500 ล้านบาท ขับเคลื่อนด้วยกลุ่มคนทำงานเพียงกลุ่มเล็กๆ แต่รวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ ตรงกลุ่มเป้าหมาย ไม่ซ้ำซ้อน กระจายความช่วยเหลือไปในวงกว้าง เพื่อมอบอุปกรณ์และเครื่องมือสนับสนุนการทำงานของบุคลากรการแพทย์ เช่น เครื่องช่วยหายใจ, เครื่อง CT-Scan, ห้องตรวจเชื้อความดันลบ-บวก, ชุด PPE, หน้ากาก N95, ชุดตรวจ โควิด เป็นต้น เพื่อเสริมทัพที่แข็งแกร่งให้ด่านหน้าต่อสู้กับ COVID-19

 

8. สร้างภูมิคุ้มกันทางร่างกายให้ประชาชนคนไทยมีแรง ด้วยการมอบถุงยังชีพและอาหารซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐาน ให้กับแหล่งชุมชน และชุมชนบริเวณรอบโรงงานที่มิตรผลตั้งอยู่ จัดตั้งตู้มิตรปันสุขทั่วประเทศเพื่อแบ่งปันอาหารแห้งและน้ำดื่มให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียงในชุมชน บริจาคข้าวกล่องรักษ์สุขภาพร่วมกับ Meat Avatar ผลิตภัณฑ์ Plant-Based Protein และมอบผลิตภัณฑ์น้ำตาลร่วมกับหลายหน่วยงาน เพื่อส่งมอบความช่วยเหลือไปยังพี่น้องประชาชน

กลุ่มมิตรผลมองว่าหากองค์กรธุรกิจมีการสร้างภูมิคุ้มกันโดยการวางแผนการดำเนินงานและบริหารจัดการบุคคลากรได้ทันต่อเหตุการณ์และพร้อมปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ ไม่ว่าประเทศไทยจะต้องต่อสู้กับ COVID-19 หรือวิกฤติอื่นๆ อีกสักกี่ครั้ง เราก็จะผ่านไปได้อย่างแน่นอน