สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า องค์การอนามัยโลก หรือ ดับเบิลยูเอชโอ ได้จัดประชุมฉุกเฉินขึ้นเมื่อวานนี้ (11 พ.ค.65 ) เพื่อหารือเกี่ยวกับการระบาดของ หลังพบผู้ป่วยหรือต้องสงสัยว่าป่วยด้วยโรคดังกล่าว
โดย ดับเบิลยูเอชโอ ออกแถลงการณ์ระบุว่า มี 11 ประเทศที่รายงานยืนยันการพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง (Monkeypox) จำนวนรวมกันประมาณ 80 ราย และมีอีก 50 รายที่อยู่ในระหว่างการประเมิน ทำให้คาดว่าจะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก พร้อมเตือนว่าเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติ
เนื่องจากเกิดขึ้นในประเทศที่ไม่ได้ประกาศให้เป็นโรคเฉพาะถิ่น จึงต้องมีการทำงานร่วมกับประเทศต่างๆ ขยายการเฝ้าระวังโรคเพื่อค้นหาและสนับสนุนผู้ที่อาจได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งขอว่าอย่า "ตีตรา" ผู้ติดเชื้อเพราะจะทำให้ผู้ติดเชื้อไม่เข้ารับการรักษา ทำให้เกิดการแพร่ระบาดที่ไม่สามารถหาที่มาได้ และจะเป็นอุปสรรคต่อการยุติการระบาด
แม้รายงานของ WHO จะไม่ได้เปิดเผยชื่อของทั้ง 11 ประเทศ แต่ระบุว่า ล้วนเป็นประเทศซึ่งไม่เคยพบการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงมาก่อน โดยประเทศที่ออกมายืนยันแล้วว่าพบผู้ป่วย ได้แก่
สหรัฐ แคนาดา ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร เบลเยียม เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน สวีเดน เนเธอร์แลนด์ และโปรตุเกส ซึ่งสเปนยืนยันผู้ป่วยใหม่ 24 คน เฉพาะเมื่อวันศุกร์ ส่วนอิสราเอลรายงานการรักษาชายวัยประมาณ 30 ปี มีอาการป่วยเข้าข่าย และเพิ่งเดินทางกลับจากการเยือนประเทศแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของทวีปยุโรป
ดร.ฮานส์ คลูก ผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรปขององค์การอนามัยโลก เตือนว่า เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน จะมีการรวมตัว เทศกาล และงานเลี้ยง ทำให้กังวลว่าการแพร่ระบาดจะเร่งขึ้น โดยในกลุ่มผู้ติดเชื้อที่พบในขณะนี้มีอยู่เพียงรายเดียวที่ไม่มีประวัติการเดินทางที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ที่โรคฝีดาษลิงเป็นโรคเฉพาะถิ่น
สำหรับผู้ป่วยรายแรกของสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม มีประวัติการเดินทางไปไนจีเรีย และจนถึงขณะนี้มีการยืนยันพบผู้ติดเชื้อแล้ว 20 ราย สาธารณสุขพื้นที่จึงเริ่มเสนอจัดฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่มี "ความเสี่ยงในระดับสูง"
ส่วนที่สเปนมีการจัดซื้อวัคซีนฝีดาษจำนวนหลายพันโดสเพื่อเตรียมพร้อมหากเกิดสถานการณ์โรคระบาดแล้ว