โรคฝีดาษลิงน่ากลัวแค่ไหน แพร่เชื้ออย่างไร มีวัคซีนป้องกันหรือไม่ อ่านเลย

20 พ.ค. 2565 | 22:11 น.
อัปเดตล่าสุด :21 พ.ค. 2565 | 00:07 น.

โรคฝีดาษลิงน่ากลัวแค่ไหน แพร่เชื้ออย่างไร มีวัคซีนป้องกันหรือไม่ อ่านเลยที่นี่มีคำตอบ หมอธีระวัฒน์ชี้ยังไม่ควรตื่นตระหนก

โรคฝีดาษลิงคืออะไร ติดต่อทางไหน อาการเป็นอย่างไร เป็นคำถามที่กำลังได้รับความสนใจบนโลกออนไลน์ หลังจากที่หลายประเทศเริ่มมีผู้ป่วยเกิดขึ้น

 

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา (หมอธีระวัฒน์) ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว (ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha)โดยมีข้อความว่า

 

monkey pox (ฝีดาษวานร) ยังไม่ควรตื่นตระหนกมาก

 

หมอดื้อ

 

  • เชื้อไวรัสนี้จะแพร่ต่อเมื่อคนติดเชื้อเริ่มมีอาการแล้ว ได้แก่ ไข้ปวดหัว ปวดเมื่อย มีต่อมน้ำเหลืองโต และที่สำคัญก็คือ จะมีผื่นที่ปรากฏเห็นได้ชัด ที่หน้าที่แขนและที่มือหลังจากเริ่มอาการป่วยไม่นาน

 

  • ความสามารถในการติดจากคนสู่คน ต่ำกว่า small  pox หรือโรคฝีดาษซึ่งเป็นเชื้อสายพันธุ์ต้นตระกูลมากมาย

 

 

  • หากติดเชื้อ ความรุนแรงจนกระทั่งเสียชีวิต โดยทั่วไปจะถือว่าน้อยกว่า 10% แต่ในความเป็นจริงแล้ว อัตราการเสียชีวิตจากโรคนี้ต่ำมาก ประมาณ 1% หรือมากกว่า1% นั้นเล็กน้อย

 

  • ไวรัสตัวนี้เป็นชนิด DNA ดังนั้นความสามารถที่จะมีการแปรผันรหัสพันธุกรรมเกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่แบบโควิดนั้น แทบเป็นไปไม่ได้เลย

 

โรคฝีดาษลิงน่ากลัวแค่ไหน แพร่เชื้ออย่างไร

 

  • การติดเชื้ออยู่ที่การสัมผัสใกล้ชิด ฝอยละออง จากการไอ จาม น้ำลาย จากคนติดเชื้อ ที่มีอาการแล้ว และกรณีที่ติดจากสัตว์ จะเป็นจากการสัมผัสใกล้ชิด หรือ กับสัมผัสเนื้อ หรือสิ่งคัดหลั่งเลือด เวลาที่ทำอาหาร เช่นในแอฟริกา อย่ากลัวสัตว์มาก เพราะในกรณีนี้ในประเทศต่างๆ คนติดก่อนและปล่อยไปให้สัตว์ (ในการเกิดโรคเป็นกระจุก หลาย 10 ปีที่ผ่านมาในแอฟริกา เป็นจากสัตว์มาคน และคนสู่คน)

 

  • การติดเชื้อเป็นกระจุกเล็กๆมีมาในอดีตหลาย 10 ปีที่แล้วเช่นในสหรัฐเป็นต้น ไม่ใช่เรื่องใหม่

 

 

  • วัคซีนฝีดาษที่พวกเราสมัยก่อนเคยได้รับเมื่อ 50-60 ปีที่แล้ว จะได้ผลกับ monkey poxนี้ แต่ เป็นวัคซีนที่มีผลข้างเคียงพอสมควร โดยเฉพาะการเกิดสมองอักเสบจากภูมิคุ้มกันแปรปรวนและมีความรุนแรงของผลข้างเคียงถึงเสียชีวิตได้ถึง 50% และขณะนี้วัคซีนรุ่นใหม่ถึงมีการพัฒนาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ใช้แพร่หลาย เนื่องจากตัวโรคเองนั้นยังไม่เป็นโรคระบาด ไม่ได้มีความน่ากลัวรุนแรงแพร่กระจายในวงกว้างแบบฝีดาษ 

 

  • การรักษายังคงเป็นการประคับประคองตามอาการแม้ว่าจะมียาที่ใช้ในยุโรป แต่เป็นการป้องกันไม่ให้มีการแพร่จากคนที่ติดเชื้อออกไปมากกว่า

 

สรุปสั้นๆก็คือ

 

การป้องกันตัวที่เราปฏิบัติขณะนี้สำหรับป้องกันโควิด ก็เหมาะกับเชื้อนี้เช่นเดียวกันคือการใส่หน้ากาก ล้างมือ รักษาสุขอนามัย เมื่อตนเองไม่สบายมีไข้ปวดเมื่อย อย่าอยู่ใกล้ชิดกับคนอื่นและถ้ามีอาการหนักขึ้นปรึกษาแพทย์

 

ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ของเราเตรียมพร้อมในการวินิจฉัยฝีดาษวานรเรียบร้อยแล้ว