ประวัติเคาท์ดาวน์ จุดกำเนิดนับถอยหลัง Countdown สู่วันขึ้นปีใหม่

31 ธ.ค. 2567 | 05:18 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ธ.ค. 2567 | 05:18 น.

เฉลยคำถาม เคาท์ดาวน์ คืออะไร มีประวัติที่มาที่น่าสนใจเป็นอย่างไรกับจุดกำเนิดการนับถอยหลัง Countdown เพื่อเข้าสู่วันขึ้นปีใหม่อย่างเป็นทางการอย่างสากล

เคาท์ดาวน์ หรือ Countdown คืออะไร หากเรียกกันง่าย ๆ นั่นก็คือการนับถอยหลังจากวันส่งท้ายปีเก่าเพื่อเข้าสู่วันปีใหม่อย่างเป็นทางการโดยมีการเฉลิมฉลองที่เป็นวันเวลาสากล ซึ่งจะมีการนับถอยหลังในช่วงเวลาที่เหลืออีก 10 วินาทีของคืนวันที่ 31 ธันวาคม เพื่อเข้าสู่วันที่ 1 มกราคม ในเวลา 00.01 น. 

การเคาท์ดาวน์ ยังนับเป็นกิจกรรมที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นสิ่งใหม่ที่สดใส ที่เต็มไปด้วยความหวังและความสุขสำหรับผู้คนทั่วโลก การเฉลิมฉลองนี้ไม่ได้มีเพียงความสำคัญในเชิงวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการรวมตัวของผู้คนในชุมชนและเมืองใหญ่ที่แสดงถึงความพร้อมของมนุษยชาติในการก้าวเข้าสู่อนาคต

จุดกำเนิดของ Countdown

แม้ว่าจะไม่มีข้อมูลอ้างอิงที่ชัดเจนว่าใคร ชาติไหนเป็นคนเริ่มก่อน แต่ก็มีการยกตัวอย่าง Countdown ว่า ส่วนหนึ่งอาจมีต้นกำเนิดจากวัฒนธรรมการเฉลิมฉลองปีใหม่ในยุโรป โดยเฉพาะในอังกฤษและฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19 ชาวอังกฤษนิยมตีระฆัง 12 ครั้งในช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 31 ธันวาคมเพื่อบอกลาปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ ขณะที่ในฝรั่งเศสมีการจัดงานเฉลิมฉลองในรูปแบบงานเลี้ยงและการแสดงแสงไฟที่ตระการตา

อีกตัวอย่างที่ถูกพูดถึงนั่นคืออาจมีจุดเริ่มต้นการนับถอยหลังมาจากวงการอวกาศ โดยเฉพาะที่ NASA ในช่วงทศวรรษ 1960 สำหรับการปล่อยจรวดและยานอวกาศ ซึ่งการนับถอยหลังมีความสำคัญในการประสานระบบการทำงานของทีมงานและระบบต่างๆ ให้พร้อมกัน

แต่การนับถอยหลังที่คนทั่วโลกรู้จักและคุ้นเคยมากที่สุดในปัจจุบันจนเริ่มเป็นที่นิยม เริ่มต้นในสหรัฐอเมริกา Times Square ในนครนิวยอร์ก กลายเป็นศูนย์กลางของการเฉลิมฉลองระดับโลก โดยเริ่มต้นจากการปล่อยลูกบอลที่มีแสงไฟสว่างจ้าลงมาจากยอดเสาในคืนวันสิ้นปี ซึ่งประเพณีนี้เริ่มต้นในปี ค.ศ. 1907 และกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการเคาท์ดาวน์ ไปทั่วโลก

ประวัติ Countdown ในประเทศไทย

ประเทศไทยเริ่มนำวัฒนธรรมการเคาท์ดาวน์ มาจัดอย่างจริงจังในช่วงยุค 1990 โดยมีแรงบันดาลใจจากงานเฉลิมฉลองระดับโลก เช่น Times Square ในนิวยอร์ก จุดเริ่มต้นของการจัดงานในไทยมักจะเกี่ยวข้องกับพื้นที่ในกรุงเทพฯ เช่น ลานหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สนามหลวง และสวนลุมพินี แต่ที่ยอดนิยมสูงสุดนั่นคือ ลานหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญในช่วงวันขึ้นปีใหม่

ในยุคแรก ๆ การจัดงาน Countdown ในประเทศไทยเป็นการรวมตัวของผู้คนที่มาร่วมสนุกสนานและเฉลิมฉลองร่วมกันอย่างเรียบง่าย พร้อมการจุดพลุเพื่อเฉลิมฉลอง แต่ในเวลาต่อมา งานเคาท์ดาวน์ ได้รับการพัฒนาให้ยิ่งใหญ่ขึ้น มีการแสดงดนตรีสด การแสดงแสงสีเสียง และการร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐและเอกชน เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และบริษัทในอุตสาหกรรมบันเทิง

กิจกรรม Countdown กับวัฒนธรรมไทย

กิจกรรม Countdown ในประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียงแค่การนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่เท่านั้น แต่ยังผสานความเชื่อและวัฒนธรรมไทยไว้ด้วย เช่น การตักบาตรในเช้าวันปีใหม่ การไหว้พระขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล และการรวมตัวของครอบครัวเพื่อเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความอบอุ่น

นอกจากนี้ งานเคาท์ดาวน์ ยังช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ โดยดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้มาร่วมงานในสถานที่สำคัญต่าง ๆ ทั่วประเทศ การเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ เช่น การจุดพลุริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่กรุงเทพฯ หรือการแสดงแสงสีเสียงที่หาดป่าตอง ภูเก็ต ล้วนสร้างความประทับใจและดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

สำหรับกิจกรรม Countdown ได้ก้าวข้ามพรมแดนวัฒนธรรมและเวลา กลายเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนทั่วโลกได้หยุดพักพร้อมกันเพื่อมองไปยังอนาคตที่ดีกว่า เป็นเครื่องเตือนใจถึงความเป็นหนึ่งเดียวและความสามารถของมนุษย์ในการเริ่มต้นใหม่อย่างเต็มพลังใจด้วย