ในที่สุด “อุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทรปราการ” ก็พร้อมเปิดประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยว ได้ร่วมย้อนรอยเรื่องราว “เมืองปากน้ำ”ปราการด่านหน้าทางทะเลของไทย ในแบบ Interactive สุดตื่นตา ว๊าวๆ ไปกับวิวปากแม่น้ำเจ้าพระยาสวยสุดๆแบบพาโนราม่า 360 องศา แห่งเดียวในไทย หลังจากใช้เวลาก่อสร้างมานานกว่า 10 ปี
จากพื้นที่ “เรือนจำสมุทรปราการ” ในอดีต ถูกเนรมิตให้เป็น “หอชมเมือง” สูงกว่า 179.55 เมตร เริ่มบวงสรวงลงเสาเอกตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555 สร้างกันมาหลายยุคหลายสมัย ภายใต้งบประมาณกว่า 600 ล้านบาท
จนล่าสุดทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ เพิ่งจะเปิด “อุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทรปราการ” แห่งนี้ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัสความอลังการไปเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 ที่นี่เอง
ด้วยรูปลักษณ์ของอาคารหอชมเมือง ซึ่งสร้างเป็นอาคารฐานทรงกลม 2 ชั้น แกนกลางมีลักษณะเป็นแท่งแปดเหลี่ยม สูงขึ้นไปเป็นหอคอยทรงกระบอก ด้านบนมีส่วนห้องกระจกใสทรงกลม เป็น
จุดชมวิวปากแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยที่สุดแห่งเดียวในประเทศไทย ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพเมืองสมุทรปราการแบบ 360 องศา ทำให้อาคารแห่งนี้มองเห็นได้แต่ไกล เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของจังหวัดสมุทรปราการ
วันนี้ “อุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทรปราการ” ไม่ใช่แค่เพียงแลนด์มาร์กของจังหวัดเท่านั้น แต่ยังได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งใหม่ของไทย ที่นักท่องเที่ยวจะได้ร่วมย้อนรอยเรื่องราวเมืองปราการด่านหน้าทางทะเลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ผ่านนิทรรศการชุด “ร้อยเป็นเรื่องเมืองปากน้ำ” ในรูปแบบ Interactive พร้อมๆ ไปกับชมวิวปากแม่น้ำพระยากว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาในแบบพาโนราม่า ทั้งในช่วงเปิดตัว ยังเปิดให้เข้าชมฟรี! ตั้งแต่วันนี้-31 ตุลาคม 2565 นี้ด้วย
จุดปักหมุดแรกอยู่ที่ชั้น 2-3 ซึ่งเราจะได้เรียนรู้เรื่องราวในอดีตจนถึงปัจุบันผ่านนิทรรศการชุด “ร้อยเป็นเรื่องเมืองปากน้ำ” ณ อุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทรปราการ ซึ่งบันทึกประวัติศาสตร์เหตุการณ์สำคัญในไทยของเมืองหน้าด่านที่ขนานนามว่า “เมืองปากน้ำ” บอกเล่าความเป็นมา ทั้งการเป็นเมืองอุตสาหกรรม และวิถีชุมชนทุกยุคทุกสมัย ผสานนวัตกรรมอันทันสมัย
คุณจะไม่เบื่อเลย เพราะไม่ใช่แค่การเดินชมนิทรรศการเหมือนทั่วๆ ไป แต่ที่นี่ใช้ระบบ Interactive ทำให้เรารู้สึกได้ถึงปฏิสัมพันธ์ และมีส่วนร่วมในการจัดแสดงทั้ง 6 โซนเลย
โซนที่ 1 “ปากน้ำเมื่อนานมา” ซึ่งจะนำเราขึ้นสู่ “Ship Time Machine Simulator” ไปสัมผัสความรุ่งโรจน์ในอดีตของเมืองปราการ ที่ยังคงบทบาทของความเป็นเมืองหน้าด่านยาวนานสืบมาจวบจนปัจจุบัน แม้จะมีบทบาทหน้าที่ที่แตกต่างกันไปตามยุคสมัย แต่เมืองปากน้ำแห่งนี้ก็ยังคงไว้ ซึ่งหัวใจหลักของความเป็นเมืองหน้าด่านของผืนแผ่นดินไทย
โซนที่ 2 “เข้าท่าเมืองหน้าด่าน” ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศความรุ่งเรืองย่านคลังสินค้านิวอัมสเตอร์ดัมของชาวฮอลันดา บริเวณปากคลองบางปลากด ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเป็นเมืองท่าการค้าสมัยอยุธยา ผ่านเทคนิคการจัดแสดง Light & sound Mechanic Diorama และ Projection Mapping กว่า 7 เมตร ยาวที่สุดในไทย
โซนที่ 3 “ปรากฏเป็นปราการ” เดินลัดเลาะขอบกำแพงป้อมปราการ เมืองปราการแห่งใหม่ในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในฐานะเมืองหน้าด่านเพื่อป้องกันอริราชศัตรูโดยรอบ จนเป็นที่มาของการสำรวจพื้นที่เพื่อสร้างเมืองนครเขื่อนขันธ์ และเมืองสมุทรปราการ ผ่านเทคนิคฉาย Invisible Fortress สุดตระการตา
เราจะสัมผัสได้ถึงวิถีชีวิตของผู้คน ที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรมประเพณี นำไปสู่การหลอมรวมเป็นเมืองปราการที่เข้มแข็ง และที่นี่ยังเป็นที่แรกและที่เดียวในไทย ที่เผยให้เห็นองค์พระสมุทรเจดีย์เดิม ที่ซ่อนอยู่ภายในพระสมุทรเจดีย์องค์ปัจจุบัน ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
โซนที่ 4 “ปราการป้องแผ่นดิน” Movable Floor ที่จะพาทุกคนร่วมสัมผัสประสบการณ์การต่อสู้กับเรือรบฝรั่งเศส ที่บุกเข้าประชิดสยามในสมัยรัตนโกสินทร์ จนเกิดเป็นวิกฤตการณ์ ร.ศ.112 ผ่านเทคนิคการจัดแสดงจำลองบรรยากาศการรบเสมือนจริง ด้วยจอ 18 Double High Screen พร้อม Mechanic ปืนเสือหมอบ ที่จำลองมาจากปืนกระบอกจริงในป้อมพระจุลจอมเกล้า
เหตุการณ์ครั้งนั้นได้นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ก่อเกิดสาธารณูปโภคด้านต่าง ๆ รวมถึงด้านการคมนาคม เช่น รถไฟสายปากน้ำ ทางรถไฟสายแรกของประเทศ อันเป็นจุดเปลี่ยนสู่ความเป็นหน้าด่านทางเศรษฐกิจแห่งใหม่ของไทย
โซนที่ 5 “หน้าด่านสานเศรษฐกิจ” ก้าวสำคัญของสมุทรปราการสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่มีความเข้มแข็ง ถ่ายทอดผ่านการฉายภาพยนตร์เรื่องราวการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
ทั้งภาคเกษตรกรรมที่มีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัว ภาคการท่องเที่ยวที่มีทั้งอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม และภาคการจัดการพื้นที่สีเขียวที่ดี ผ่านจอภาพ “ดอกโพทะเล” ขนาดใหญ่ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดสมุทรปราการ
เพลิดเพลินไปกับ Interactive Game สวมบทบาทเป็นส่วนหนึ่งในกลไกสำคัญทางเศรษฐกิจของเมืองสมุทรปราการ ผ่านตู้เกมขนส่งสินค้า และเกมสายพานกระจายสินค้า และ Future Logistics Lab แสดงโครงข่ายระบบการขนส่งทางบก น้ำ อากาศ การขนส่งสินค้าที่ช่วยยกระดับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ผ่าน LED Wall 360ํ และ Projection Mapping ที่แสดงให้เห็นเส้นทางการขนส่งที่สำคัญ และครอบคลุมที่สุดเท่าที่เคยมีมา
โซนที่ 6 “มอง (กาล) ไกลไปด่านหน้า” สำรวจผังเมืองสมุทรปราการที่มีความสมบูรณ์ขนาดใหญ่กว่า 20 ตร.ม. ด้วยเทคนิคแสง สี เสียง และจอ LED ขนาดยักษ์ ผ่านกระเช้าลอยฟ้า หรือทางเดินกระจกแก้ว เพื่อก้าวไปสู่อนาคตด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดของสมุทรปราการ ประตูด่านแรกที่เชื่อมต่อทุกพื้นที่บนโลก
ชมทั้ง 6 โซนแล้ว ต่อด้วยจุดชมวิวชั้น 23 มุมมองแบบ360องศา และยิ่งในวันที่ฟ้าเปิดมองไปเห็นถึงเกาะสีชังได้ด้วยตาเปล่ากันเลย แต่ถ้าใช้กล้องส่องทางไกล หยอดเหรียญ 10 บาท ก็จะมองได้ชัดเจนชัวร์
รวมทั้งเรายังสามารถเข้าชมนิทรรศการหมุนเวียน ได้ที่ชั้น 25 ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนการจัดแสดงไปเรื่อยๆ เช่นในช่วงนี้ก็จะเป็นเรื่องเกจิชื่อดังของสมุทรปราการ
อีกทั้งยังมีนิทรรศการรวบรวมความผูกพันของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่ออาณาประชาราษฏร์ที่เกิดขึ้น ณ สมุทรปราการ ซึ่งเรายิ่งสัมผัสก็ยิ่งประทับใจ
เคล็ดลับการเข้าชมอุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทรปราการ
หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,815 วันที่ 4 - 7 กันยายน พ.ศ. 2565