วันลอยกระทง 2565 ปักหมุดเที่ยวเก๋ๆ 6 พื้นที่อัตลักษณ์ 4 ภาค

วันลอยกระทง 2565 ปีนี้ถ้าอยากไปลอยกระทง ในแบบเก๋ๆ เช็คที่นี่

 

 

ใครอยู่ “กรุงเทพฯ” พลาดไม่ได้กับ งาน “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง” ปี 2565 วันที่ 6-8 พ.ย.นี้ ททท.เนรมิต “สวนสันติชัยปราการ” จัดเต็มกิจกรรมเพียบ ไม่ว่าจะเป็นสีสันบรรยากาศการลอยกระทงในพื้นที่เอกลักษณ์ ซึ่งเป็นการผสมผสานวัฒนธรรมวิถีชีวิตและความรุ่งเรืองของวัฒนธรรม ที่สื่อผ่านสัญลักษณ์แลนด์มาร์คการลอยกระทง ใน “โซนกระทง 5 พื้นที่เอกลักษณ์”

เราจะสัมผัสได้ถึงฟิลลิ่งการจำลองบรรยากาศของประเพณียี่เป็ง จังหวัดเชียงใหม่, ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1000 ดวง จังหวัดตาก, ประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย, ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม และประเพณี สมมาน้ำคืนเพ็ง เส็งประทีป จังหวัดร้อยเอ็ด

 

 

นอกจากนี้ยังมี “โซนกิจกรรมสาธิตวิถีไทย” เรียนรู้การประดิษฐ์โคมล้านนา การทำกระทงกะลามะพร้าว การทำกระทงใบลาน การทำกระทงกาบกล้วย และการประดิษฐ์กระทงรวงข้าว

 

รวมทั้งใน “โซนพิธีลอยกระทงและกิจกรรมการแสดง” ยังมีกิจกรรมมากมาย เช่น ลอยกระทงในกระบะทดน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะมีการทดน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา มาใส่ไว้ในกระบะน้ำ เพื่อให้คนร่วมงานได้ลอยกระทง เราจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศลอยกระทงในอดีตที่ได้ขอขมาพระแม่คงคา

 

 

ตื่นตากับขบวนแห่ประเพณีลอยกระทงที่ยิ่งใหญ่ตระการตาและนางนพมาศ ในวันที่ 8 พ.ย.65 เวลา 18.30 น. พิธีวันลอยกระทง เวลา 19.00 น. การแสดงทางวัฒนธรรม วันที่ 6-7 พ.ย.65 เวลา 16.00-21.00 น. และวันที่ 8 พ.ย.65 เวลา 16.00 -24.00 น.

 

รวมถึงการแสดงดนตรีไทยทั้งยังมี “โซนสาธิตอาหารชาววัง” และ “โซนกิจกรรมประดิษฐ์กระทงด้วยตนเองจากวัสดุธรรมชาติ” อีกด้วย

แต่ถ้าใครอยากดื่มด่ำบรรยากาศงานประเพณีลอยกระทงในพื้นที่อัตลักษณ์กันถึงถิ่น ต้องไม่พลาดกับ “งานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2565” ระหว่างวันที่ 29 ต.ค. - 8 พ.ย.65 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย โดยพิธีเปิดงานในวันที่ 29 ต.ค.65 ยิ่งใหญ่อลังการกับขบวนแห่ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

 

 

การจัดงานปีนี้มาในคอนเซ็ปต์ “สุโขทัย ไท้ย ไทย” ชวนคุณร่วมกิจกรรม “แต่งไทยไปลอยกระทง” พร้อมถ่ายภาพเช็กอินจุดถ่ายภาพแลนด์มาร์กลายสือไทย คำว่า “สุโขทัย” ถ่ายรูปแล้วโพสผ่าน Social ติด #ลอยกระทงสุโขทัย #สุโขทัยไท้ยไทย รับของที่ระลึกจาก ททท. ไฮไลต์ของกิจกรรมภายในงานอยู่ที่การแสดง แสง เสียง (Light and Sound) เวลา 19.30 น.ณ วัดมหาธาตุ โซนกิจกรรม “ข้าวขวัญวันเล่นไฟ” รับประทานชุดสำรับข้าวขวัญ เมนูอาหารท้องถิ่น ณ บริเวณด้านหน้าวัดมหาธาตุ

 

 

รวมไปถึงการตกแต่งพื้นที่ท่าน้ำบริเวณตระพังตระกวนและตระพังตาล ซึ่งเป็นจุดจัดแสดงกระทงใหญ่จาก 9 อำเภอในจังหวัดสุโขทัย การจัดแสดง พลุตะไลไฟพะเนียงภายในงานทุกวันๆละ รอบ เวลาการแสดงพลุราว 22.00 น.และ 23.00 น. การแสดงโขน ละคร หุ่น ณ เวทีบริเวณด้านข้างวัดชนะสงคราม และ ตลาดโบราณ “รอบรั้วเมืองพระร่วง” เปิดประสบการณ์กับอาหารถิ่นบ้านบ้าน ณ บริเวณด้านหน้าตระพังตาล อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตลาดถุงเงิน ณ วัดตระพังเงิน

 

 

อีกจุดเช็คอินอันเป็นสีสันค่ำคืนลอยกระทง ต้องนี่เลย “งานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1000 ดวง ประจำปี 2565 จังหวัดตาก” วันที่ 5-8 พ.ย. 65 ณ ริมสายธารลานกระทงสาย เชิงสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี อำเภอเมืองตาก

 

 

ประเพณีที่สืบทอดกันมาแต่ช้านานตั้งแต่บรรพบุรุษเพื่อเป็นการขอขมาต่อแม่น้ำปิง บวกกับธรรมชาติของสายน้ำเกิดล่องน้ำเป็นสายยาว เมื่อนำกระทงลงลอยลงแม่น้ำปิงกระทงลอยต่อเนื่องกันเป็นสายตามธรรมชาติเห็นแสงไฟระยิบระยับติดต่อกัน เป็นภาพที่งดงามที่เกิดขึ้น ณ จังหวัดตากที่เดียวและเฉพาะช่วงเทศกาลลอยกระทงเท่านั้น

 

 

ถ้าใครอยู่แถว “ภาคเหนือ” ต้องไปแอ่ว “ประเพณียี่เป็งเชียงใหม่” วันที่ 7-9 พ.ย.65 ณ บริเวณรอบคูเมืองเชียงใหม่ และภายในเทศบาลเมืองเชียงใหม่ โดยในปีนี้มีแนวคิดการจัดงานภายใต้ “ความสุขแห่งสายน้ำ ปิงนครามหานที” กิจกรรมไฮไลท์อยู่ที่การประกวดขบวนแห่กระทงใหญ่ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมชมความงดงามของ “แสงศิลป์ประทีปเบิกฟ้า ยี่เป็งเชียงใหม่”

 

 

จัดแสดงโคมล้านนานับหมื่นดวง พร้อมประดับไฟแสงสียามค่ำคืนจะสว่างไสวทั่วเมืองเชียงใหม่ บริเวณ 5 ประตูเมือง 4 แจ่ง (เขตเมืองเก่า) ข่วงประตูท่าแพ สะพานเหล็ก (ขัวเหล็ก) สะพานนวรัฐ สะพานนครพิงค์ บริเวณฝั่งแม่น้ำปิง หน้าเทศบาลนครเชียงใหม่ การแสดงพลุเฉลิมพระเกียรติ “ใต้แสงแห่งความสุข ปิงนครามหานาที”

 

 

พิธีบวงสรวงศาลพระภูมิ-เจดีย์ขาว ขอขมาแม่น้ำปิง ประเพณีตั้งธรรมหลวง และครั้งแรก! กับการแสดงม่านน้ำ ประกอบแสง เสียง และสื่อผสมสืบสานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2565 เรื่อง “เรืองสาคเรศ เกตุเมืองแก้ว” นครแห่งสายน้ำอันรุ่งเรือง ประกอบด้วย

 

องก์ที่ 1 ภวะธารา (กำเนิดแห่งสายน้ำ)

 

องก์ที่ 2 มิ่งเมืองนาราชลธี

 

องก์ที่ 3 ปิงนทีหิรัณย์นคราถ่ายทอดเรื่องราวการกำเนิดแห่งสายน้ำเรียงร้อยวัฒนธรรม วิถีชีวิตผูกพันของผู้คนสองฝั่งลำน้ำปิง กำหนดการแสดงวันละ1 รอบ เริ่มเวลา 19.30 น. ระหว่างวันที่ 7-9 พ.ย.65 ณ บริเวณท่าน้ำศรีโขง

 

 

ส่วนใครอยู่แถว “ภาคอีสาน” อย่าพลาดไปเบิ่ง “ประเพณีสมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีป” วันที่ 7-8 พ.ย.65 ณ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด และบึงพลาญชัย จังหวัดร้อยเอ็ด ไฮไลท์อยู่ที่การจัดกิจกรรมการประกวดกระทงประทีปใหญ่ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขบวนแห่กระทงประทีปเมืองสาเกตนครและขบวนเมืองบริวาร 11 หัวเมือง การแสดงแสง สี เสียง พร้อมชมความงดงามของพระประทีปพระราชทาน กิจกรรมการประกวดกระทงอนุรักษ์ธรรมชาติ การประกวดรำวงสมมาน้ำคืนเพ็ง เส็งประทีป การประกวดธิดาสาเกตนคร

 

 

หรือถ้าอยากไปลอยกระทงในพื้นที่อัตลักษณ์ที่อยู่ใกล้กับกรุงเทพฯ ก็ยังมี “ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วย เมืองแม่กลอง” วันที่ 5-8 พ.ย.65 ณ อุทยาน ร.2,วัดภุมรินทร์กุฎีทอง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ที่มาในแนวคิด

 

ชวน “นุ่งโจง ห่มสไบ แต่งชุดไทย ไปลอยกระทง” ภายใต้ชื่องาน “แชะ ช้อป ชิมอาหารบ้านฉัน ชมจันทร์วันเพ็ญ และงานประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง ตามครรลองวิถีพอเพียง ปลอดภัยไร้ซึ่งแอลกอฮอล์ ประจำปี 2565”

 

 

ตื่นตาตื่นใจไปกับภาพของกระทงกาบกล้วยกว่าสองแสนใบลอยเป็นสายสว่างไสวบนผืนน้ำ เต็มสองฟากฝั่งวัดภุมรินทร์กุฎีทองและอุทยาน ร.2 รับพรจากน้ำมนต์ที่ผ่านพิธีพุทธาภิเษกบริกรรมคาถาจากเจ้าอาวาส 9 วัดดังแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง การแสดงโขนจิ๋ว และกิจกรรมอีกเพียบ

 

 

งานนี้นอกจากเราจะได้สัมผัสเสน่ห์แห่งสายน้ำในคืนวันเพ็ญเดือน 12 แล้ว ยังได้ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง 2565 ใน 6 พื้นที่อัตลักษณ์ อันทรงคุณค่าอีกด้วย

 

หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,831 วันที่ 30 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565