ใครเป็นคอบุฟเฟ่ต์ รู้กันดีว่า ”บุฟเฟต์ใบหยก” ขึ้นชื่อในเรื่องนี้มาก เพราะด้วยมาตรฐานอาหารระดับฝีมือเชฟโรงแรม กับราคาที่วันนี้อยู่ในหลักร้อย เราจึงไม่พลาดที่จะปักหมุดเช็คอินกันที่นี่
ด้วยความที่เราอยากกินบุฟเฟ่ต์มื้อเที่ยง มากกว่ามื้อดินเนอร์ เลยมาลงตัวที่ “ภัตตาคารจีนสเตลล่า พาเลซ” บนชั้น 79 ของโรงแรมใบหยกสกาย
ช่วงนี้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เปิดบริการ “Seafood & Dim Sum Buffet Lunch” ราคา 790 บาทไม่บวก ถ้ามาพร้อมเด็กสูง 80-120 ซม. ก็จ่ายครึ่งราคา
บุฟเฟต์ติ่มซำเนื้อแน่น ซีฟู้ดสดๆ หลากหลายเมนู ปรุงสดๆ รสชาติแบบต้นตำรับแท้ๆ พร้อมฟินไปกับวิวมุมสูง
บุฟเฟต์ติ่มซำ ที่ไม่ได้มีแค่ติ่มซำ แต่เรายังฟินไปกับ ซีฟู้ด และอาหารจีน กว่า 60 เมนู ในแบบฉบับ ฮ่องกงแท้ๆ
เรามีเวลาทานกันได้ 2 ชั่วโมงในช่วง10.30-14.30 น. พร้อมลุยเลย ไลน์บุฟเฟ่ต์เรียงรายเป็นแถวยาว
หลายเมนูมาก เราเริ่มทานติ่มซำก่อนเลย นึ่งกันร้อนๆ ใส่รถเข็ญติ่มซำนานาชนิดมาให้เลือกกันถึงโต๊ะเลย
เมนูแนะนำพลาดไม่ได้กับการลิ้มลอง “ฮะเก๋าหูฉลาม” อร่อยสุดๆต้องเบิ้ลไปหลายเข่ง
ใครชอบกุ้งรสชาติเข้มข้น “กุ้งนึ่งซอสผงกะหรี่” โดนมาก
ส่วน “ขนมจีบกุ้ง” และ “ขนมจีบปู” ก็พลาดไม่ได้อยู่แล้ว
สำหรับซาลาเปา ต้อง “ซาลาเปาไส้ลาวา” ไส้ทะลัก
นอกจากนี้ยังมีของทอดในไลน์ติ่มซำอีกเพียบ แนะนำ “ฟองเต้าหู้ทอด” ต้องลองเลย
“บะหมี่เป็ดย่างจักรพรรดิ” รวมถึง “ข้าวขาหมู” สูตรจากเชฟ ใบหยก สกาย
ใครชอบทานซุป “ซุปเสฉวน” และ “ซุปรังนก” และ “บักกุดเต๋” กินร้อนๆ ทั้งอร่อยและคล่องคอ
แล้วที่เก๋ได้ใจมาก คือ ที่นี่มีเมนู “Seafood ฮองเฮา หม้อไฟสูตรเด็ด” มีให้เลือก 3 น้ำซุป ไม่ว่าจะเป็น น้ำซุป หูฉลาม,น้ำซุปน้ำตก, น้ำซุปต้มยำกุ้ง ตั้งอยู่บนโต๊ะ
เราเดินไปเลือกซีฟู้ด และผักต่างๆ ตามชอบ ตักมาใส่ในหม้อไฟ กินกันฟินไปเลย
หรือใครไม่อยากทานแบบหม้อไฟ ก็ไปเลือกซีฟู้ด กุ้ง หอย ปลา นานาชนิด ให้พนักงานย่างหรือลวก ทานคู่น้ำจิ้มซีฟู้ด ลงตัว
ปิดท้ายกันที่ไลน์ของหวาน บอกเลยว่าจัดเต็ม ทั้งของหวานแบบไทย อย่าง “ข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียน” เมนูของหวานแบบจีน ไปจนถึง เค้ก เครป ทานคู่ไอศรีม ชอบทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลย
ทานเสร็จเรายังได้ขึ้นไปเที่ยวหอชมวิว และรูฟท็อป ชมวิวมุมสูงกรุงเทพฯ โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่มอีกด้วย
หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,835 วันที่ 13 - 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565