เปิด 9 วัด อันซีนสะสมแต้มบุญเสริมความปัง ปี 66

08 ม.ค. 2566 | 01:35 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ม.ค. 2566 | 09:50 น.

ก้าวสู่ปีใหม่ 2566 เราเลยอยากแนะนำให้คุณแพ็คกระเป๋าวางแผนทริปกินเที่ยว ไปพร้อมๆกับการทำบุญเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต แนะนำ 9 วัดอันซีนเสริมความปังที่คุณไม่ควรพลาด

วัดเป็นเสมือนศูนย์รวมจิตใจของคนไทยตั้งแต่โบราณตลอดจนปัจจุบัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ไม่ว่าเราจะไปที่ไหน ชีวิตประจำวันมักเกี่ยวข้องกับวัดอยู่เสมอ

 

ไหนๆปีใหม่แล้ว ใครกำลังมองหาที่เที่ยวเสริมสิริมงคลรับปีใหม่ 2566  เราจะพาสายเที่ยว สายบุญ แวะไปเที่ยว ไหว้พระ ทำบุญ เสริมความปัง ใน 9 วัดอะเมซิ่ง ไทยแลนด์  ซึ่งแต่ละวัดต่างให้บรรยากาศที่ประทับใจไม่แพ้กัน

1.วัดถ้ำเอราวัณ อะเมซิ่งหินงอกหินย้อย

 

เริ่มต้นด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของทั้งสองจังหวัดระหว่าง จ.เลย และ จ.หนองบัวลำภู วัดถ้ำเอราวัณ หรือที่ชาวบ้านมักเรียกกันสั้น ๆ ว่าถ้ำช้าง ถ้ำขนาดใหญ่ที่มีหินงอกหินย้อยออกมาตามธรรมชาติ มีบันได 611 ขั้นจากเชิงเขาเดินขึ้นไปถึงปากถ้ำ

 

วัดถ้ำเอราวัณ

 

บริเวณปากถ้ำขนาดกว้างใหญ่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย และประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า “พระพุทธชัยศรีมหามุนีตรีโลกนาถ” นอกจากนี้ด้านในยังมีห้องโถงกว้างที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยและเสาหินขนาดใหญ่

 

รวมถึงหินขนาดใหญ่รูปคล้าย “ช้างหมอบ” อยู่บนพื้น อันเป็นที่มาของชื่อถ้ำ ซึ่งเมื่อเดินต่อเนื่องทะลุไปออกที่โพรงถ้ำอีกด้านจะพบจุดชมทิวทัศน์มองเห็นที่ราบซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรมทางด้าน จ.หนองบัวลำภู ได้อย่างกว้างไกล

 

2.วัดพระแก้ว ราชินีแห่งเจดีย์แห่งเอเชียอาคเนย์

 

วัดพระแก้ว เดิมเรียกว่า วัดแก้ว หรือ วัดพบแก้ว โบราณสถานวัดที่เก่าแก่สำคัญของ จ.ชัยนาท ตั้งอยู่ที่ ตำบลแพรกศรีราชา อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท  ห่างจากตัวเมืองชัยนาทประมาณ 23 กิโลเมตร ได้รับขนานนามให้เป็น “ราชินีแห่งเจดีย์แห่งเอเซียอาคเนย์”

 

ด้วยความโดดเด่นขององค์เจดีย์สี่เหลี่ยมที่มีความงดงามแบบละโว้ทรงสูงผสมกับ เจดีย์ทวาราวดีตอนปลาย ฐานเรือนธาตุแบบลดท้องไม้ เป็นศิลปะสมัยสุโขทัยกับสมัยศรีวิชัยผสมผสานกัน บริเวณด้านหน้าเจดีย์มีวิหาร “หลวงพ่อฉาย” ด้านหลังองค์หลวงพ่อฉายมี “ทับหลัง” แกะสลักติดอยู่

 

วัดพระแก้ว

 

ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับสาวกสายพญานาค ไม่ควรพลาดชมรูปปั้นพญานาคขนาดใหญ่โอบล้อมรอบอุโบสถที่บรรจงออกแบบงดงาม และผู้ศรัทธายังสามารถเดินลอดท้องพญานาค เพื่อเป็นสิริมงคลกลับไปพร้อมรูปถ่ายสวย ๆ อีกด้วย

3.วัดหินหมากเป้ง แลนด์มาร์คเหนือแม่น้ำโขง

 

วัดหินหมากเป้ง บ้านไทยเจริญ ตำบลพระพุทธบาท อำเภอศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นอกเหนือความโด่งดังบารมีหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ที่ชาวบ้านพื้นที่ และนักท่องเที่ยวต่างแวะเวียนมากราบสักการะขอพร และสถานที่ที่พุทธศาสนิกชนเดินทางมาปฏิบัติธรรมแล้ว

 

วัดหินหมากเป้ง

 

ที่นี่ยังเป็นแลนด์มาร์คสกายวอล์คสถานที่ยอดนิยมของจ.หนองคาย ด้วยความสูงยกขึ้นเหนือแม่น้ำโขง มีทางเดินพื้นกระจก มองเห็นแม่น้ำโขงอย่างงดงาม นับเป็นจุดอันซีนเหมาะทั้งยืนชมวิว หรือถ่ายภาพก็ได้ความประทับใจมากไม่แพ้กัน

 

4. วัดภูทอก บึงกาฬ

 

ว้ดภูทอก หรือวัดเจติยาคีรีวิหาร ตั้งอยู่ใน จ.บึงกาฬ ในภาษาอีสาน คำว่า ภูทอก แปลว่า ภูเขาโดดเดี่ยว ที่นี่จะมีภูเขาอยู่ 2 ลูก ด้วยกัน คือ ภูทอกใหญ่ และ ภูทอกน้อย โดยวัดตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ล้อมรอบด้วยสะพานไม้เดินวน 360 องศา 7 ชั้น โดยชั้นที่ 3-6 สามารถเดินเวียนรอบเขาได้ ชมบรรยากาศสุดอันซีนได้รอบทิศ 360 องศา กินลมชมวิวบรรยากาศสบาย ๆ สไตล์ธรรมชาติ

 

วัดภูทอก

 

แอบกระซิบว่าจุดที่ประทับใจสุดคือชั้นที่ 6 ด้วยหน้าผาหินที่ยื่นออกมา เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด โดยเฉพาะช่วงปลายปีหน้าหนาวภูทอก จะมีทะเลหมอกอยู่รอบ ๆ เสมือนว่าเดินอยู่บนสวรรค์เลยทีเดียว เพิ่มความฟินให้ทริปไปอีก

 

5.วัดพระธาตุจอมปิง

 

เงาพระธาตุกลับหัววัดพระธาตุจอมปิง นับเป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง และเป็นวัดเก่าแก่สถาปัตยกรรมล้านนา จ.ลำปาง แต่ในเมืองรถม้า จวบจนปัจจุบัน โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะสถาปัตยกรรมศิลปะแบบล้านนา และกลิ่นอายช่างชาวเมียนมาอยู่ด้วย

 

วัดพระธาตุจอมปิง

พระธาตุสูง 34 เมตรสง่างามด้วยสีทองอร่ามเรืองรองฐานย่อมุม ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จุดอันซีนกับเงาพระธาตุกลับหัวผ่านบานหน้าต่างมาปรากฏบนพื้นภายในพระอุโบสถ ซึ่งเงาพระธาตุที่เห็น ก็คาดว่าเกิดจากหลักการทางวิทยาศาสตร์ของกล้องรูเข็มนั่นเอง

 

วัดพระธาตุจอมปิง

 

6.วัดพระบรมธาตุสวี พระบรมธาตุเก่าแก่ 700 ปี

 

วัดพระบรมธาตุสวี เป็นที่ประดิษฐานของ พระบรมธาตุสวี และมีอายุนานกว่า 700 ปี เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองชุมพร มีความสำคัญทั้งในพุทธศาสนา และประวัติศาสตร์ไทย โดดเด่นด้วยศิลปกรรมของพระบรมธาตุสวี คาดว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา และมีการซ่อมแซมบูรณะหลายครั้ง

 

วัดพระบรมธาตุสวี

 

ปัจจุบันองค์เจดีย์มีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตกแต่งด้วยรูปปั้นช้างโผล่ศีรษะโดยมีขาหน้าค้ำเจดีย์อยู่ด้านละ 3 ซุ้ม สลับกับรูปยักษ์ถือกระบอง และมีเจดีย์องค์เล็กจำลองแบบจากเจดีย์องค์ใหญ่ตั้งอยู่รอบฐานทั้ง 4 มุม องค์เจดีย์มีลักษณะทรงระฆังคว่ำ ด้านบนประดับด้วยเสาหารก้านฉัตร บัวเถา ปล้องฉัตรเจ็ดชั้น ชั้นบนสุดมีปลียอดและเม็ดน้ำค้าง เรียงตามแนวระเบียงทั้ง 4 ทิศ ด้านในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

 

7. วัดราชบพิธฯ มรดกวิจิตรแห่งกรุงรัตนโกสินทร์

 

วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร หรือนิยมเรียกสั้นว่า วัดราชบพิธ วัดประจำรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7 ตั้งอยู่บนถนนเฟื่องนคร กรุงเทพมหานคร สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมผสมระหว่างสถาปัตยกรรมไทยและยุโรป ภายนอกเป็นสถาปัตยกรรมไทย

 

วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

ส่วนภายในโบสถ์ออกแบบตกแต่งแบบตะวันตก ความโดดเด่นของวัดราชบพิธ  คือ  พระอุโบสถ วิหาร เจดีย์ และระเบียงแก้ว  มีลายไทยลงรักประดับมุกที่วิจิตรสวยงาม พระเจดีย์ประดับกระเบื้องเคลือบทรงระฆัง เป็นเจดีย์ประธานองค์สุดท้าย ที่สร้างขึ้นตามแบบแผนประเพณีนิยมที่ทำกันมาแต่โบราณ

 

8.วัดวังคำ“วัดเชียงทองในเมืองไทย”

 

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความงามสถาปัตยกรรมล้านช้าง ต้องห้ามพลาด วัดวังคำ อันซีนเมืองกาฬสินธุ์  วัดไทยเพียงวัดเดียวในจังหวัดกาฬสินธุ์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบล้านช้าง ต้นแบบและแนวคิดจำลองแบบในการสร้างจากวัดเชียงทอง ในหลวงพระบาง

 

วัดวังคำ

 

ส่งผลให้ วัดวังคำ ถูกยกย่องเป็น “วัดเชียงทองในเมืองไทย” นอกจากความงดงามของสถาปัตยกรรม สิ่งที่นักท่องเที่ยวต่างชื่นชมและประทับใจ คือ การแต่งกายเข้าชมวัด โดยจะต้องแต่งกายสุภาพ ผู้ชายใส่กางเกงขายาว ผู้หญิงนุ่งกระโปรงยาว ถ้านุ่งสั้น จะมีผ้าซิ่นให้ใส่ ส่วนผู้ชายจะมีผ้าขาวม้าให้ จากนั้นต้องพาดด้วยผ้าสไบเฉียงที่ทางวัดเตรียมไว้ให้ แลดูสวยงามเป็นระเบียบ

 

วัดวังคำ

9.วัดสิรินธรวราราม วัดเรืองแสงแห่งแรงศรัทธา

 

วัดสิรินธรวราราม วัดเรืองแสงแห่งแรงศรัทธา แลนด์มาร์ค จ.อุบลราชธานี ลำพังความงดงามด้านพุทธศิลป์และสิ่งปลูกสร้าง ของ วัดสิรินธรวราราม ก็สุดยอดแล้ว แต่ทันทีที่ พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า สีเรืองแสง ที่ฉาบไว้ ก็เปล่งประกาย มันสวยมาก เหมือนเราอยู่บนสวรรค์ ด้วยสถานที่และการวางแลนด์สเคป ของวัดดูลงตัวมีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์

 

วัดสิรินธรวราราม

วัดสิรินธวราราม

ทั้ง 9 วัดอันซีนเหล่านี้ไม่เพียงสะท้อนถึงโบราณสถานที่สวยงาม แต่ยังมีประวัติยาวนาน  งานนี้รับรองไม่พลาดไปเสริมความปังรับปี 2566 แน่นอน