ตรังไม่ได้มีดีแค่ทะเล อันซีน “บ้านน้ำราบ” ป่าโกงกางรูปหัวใจ

ตรังไม่ได้มีดีแค่ทะเล หรือ เกาะกระดาน ชายหาดที่สวยที่สุดในโลก  และการจะเดินทางไปชมทะเลแหวก ไม่จำเป็นต้องออกทะเลเท่านั้น เพราะการเที่ยวป่าโกงกาง ณ “บ้านน้ำราบ” ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง เราจะสัมผัสได้ทุกฟิลลิ่งของการล่องแพ ปีนเขา ชมทะเลแหวก กินปูอร่อยโคตร ในคราวเดียวกันเลย แถมยังเที่ยวได้ตลอดทั้งปีอีกต่างหาก

เราไปเที่ยวป่าชายเลนมาแล้วก็หลายที่ แต่ที่บ้านน้ำราบ ทึ่งมากกับผืนป่าชายเลนอันแสนกว้างใหญ่ ภายในเนื้อที่กว่า 3,200 ไร่ ที่ชาวบ้านร่วมกันอนุรักษ์ป่ากลับคืนสู่ความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง

จากในอดีตที่เคยเป็นป่าเสื่อมโทรมจากที่พื้นที่แห่งนี้เคยเป็นแหล่งสัมปทานเผาถ่านไม้โกงกาง ก่อนจะถูกยกเลิกสัมปทานไป และยังเป็นพื้นที่เคยได้รับผลกระทบหลังเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2547 ด้วยเช่นกัน

วันนี้ใครมาบ้านน้ำราบ คือ ฟินมาก มีกิจกรรมมากมาย แบบวันเดย์ทริป ที่บริหารจัดการโดยการท่องเที่ยวโดยชุมชน โดยวิสาหกิจชุมชนล่องแพ บ้านน้ำราบ ในการนำจุดเด่นอันเป็นเสน่ห์ของที่นี่มาสร้างโปรแกรมให้เราเที่ยวกันเพลินเลย

มาที่นี่เหมือนหลุดจากโลกที่วุ่นวาย ไปสัมผัสบรรยากาศสุดชิลล์  ดื่มด่ำธรรมชาติป่าโกงกางอันเขียวขจี เราสามารถเลือกได้ว่าจะ “นั่งแพ” ซึ่งนั่งได้หลายคน หรือจะนั่ง “เรือหัวโทง” หรือเรือหางยาว ชมวิวทิวทัศน์ป่าชายเลนตลอดสองฝั่ง ผ่าน “คลองตาแป๊ะ” ออกไปยังปากอ่าวทะเลอันดามัน

อีกทั้งระหว่างล่องเรือ เรายังเห็นแพปู ที่เกิดจากการอนุรักษ์ปูของชาวบ้าน ที่นี่นอกจากจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปูม้าตามธรรมชาติแล้ว ยังมี “ธนาคารปูม้า” เป็นศูนย์เพาะฟักปูม้าไข่นอกกระดอง ซึ่งแม่ปู 1 ตัว มีไข่ประมาณ 3 แสนฟอง

ถ้าตัวใหญ่จะไข่ถึงหนึ่งล้านฟอง เมื่อถึงระยะที่ไข่ใกล้ฟักตัวชาวบ้านก็จะนำไปปล่อยลงทะเลให้ลูกปูเจริญเติบโตในธรรมชาติต่อไป และในวันที่เราไปก็โชคดีที่ได้มีโอกาสปล่อยแม่ปูไข่นอกกระดองลงทะเลพอดี

ไฮไลท์ระหว่างล่องเรือนอกจากจะได้ฟิลของธรรมชาติบำบัดจิตใจแล้ว เรายังได้ลอด “อุโมงค์ป่าโกงกาง” ระยะทางราว 2 กิโลเมตร เรานั่งหัวเรือถ่ายรูปเริดๆ ในแบบลมเย็นๆ ได้ภาพมาหลายแอคเลย 

จากนั้นถึงเวลาเดินขึ้น “เขาจมป่า” เพื่อชมวิวป่าโกงกางในมุมมอง 360 องศา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนที่มาแล้วพลาดไม่ได้เลย เขาจมป่าเป็นเขาลูกเตี้ยๆที่มีต้นโกงกางสูงใหญ่แวดล้อมอยู่จนมองไปแทบไม่เห็นตัวเขา แต่จะเห็นเพียงยอดเขาเล็กๆแหลมๆ โผล่ขึ้นอยู่เหนือหัว ชาวบ้านจึงตั้งชื่อว่าเขาจมป่า

เขาจมป่าแม้จะเป็นภูเขาที่ไม่สูงมากนัก มีความสูง 84 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีระยะทางเดินขึ้นเขาราว 400 เมตร แต่ว่าทางเดินขึ้นก็สมบุกสมบันไม่น้อย ต้องใช้ความระมัดระวัง บางช่วงค่อนข้างชัน มีเชือกให้ยึดเกาะ

คนที่จะขึ้นเขาต้องเตรียมตัวให้ดีต้องใส่รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าหุ้มส้น และจะดีมากถ้าพกถุงมือมาด้วย เพราะระหว่างทางเดินบางช่วงมีหินแหลมคม ที่เราจำเป็นต้องเกาะเพื่อปีนป่ายขึ้นไป และช่วงสุดท้ายต้องลอดซอกหินขนาดเล็กก่อนไปทะลุข้ามไปยังจุดชมวิวบนยอดเขา เพื่อขึ้นไปจุดชมวิว ไม่ต้องรีบเดินเหนื่อยก็พักกันไป

โอโห! อะเมซิ่งมากมาย เห็นวิวแล้วหายเหนื่อยเลย ภาพที่มองลงไปจากจุดชมวิวบนยอดเขาจมป่า คือ ผืนป่าชายเลนกว้างใหญ่เขียวขจีสุดลูกหูลูกตา ในมุมมองพาโนรามา 360 องศา ต้นโกงกางผืนใหญ่ สลับกับลำคลองคดเคี้ยว คล้ายกับงูเลื้อย เป็นภาพที่ประทับใจตื่นตาสุดๆ เราชื่นชมบรรยากาศอยู่พักใหญ่ ก็ถึงเวลาเดินลงเขา ที่ตอนลงเขา เหมือนจะเหนื่อยน้อยกว่า ใช้เวลาไม่นานก็ถึงตีนเขา พอถึงปั๊บท้องร้องเลยจ๊ะ

ถึงเวลาทานข้าวแล้ว โดยเรือจะนำเราขึ้นไปนั่งทานกันบนแพ หรือใครอยู่บนแพอยู่แล้วก็ทานกันบนแพ ปูม้าของที่นี่แม้จะตัวไม่ใหญ่ แต่สดและอร่อยที่สุดเท่าที่เคยทานมาเลย รสสัมผัสเนื้อแน่นหวานมาก แกงส้มรสชาติเข้มข้น กุ้ง ปลา หอย จัดเต็ม

รสชาติดีมีเติมให้เราจนอิ่มพุงกาง กว่าจะทานเสร็จก็บ่อยคล้อยแล้ว ซึ่งช่วงนั้นน้ำทะเลกำลังพอดี ทำให้บริเวณรอยต่อของคลองตาแป๊ะกับปากอ่าว เราจึงได้เห็นภาพความมหัศจรรย์ของ “ทะเลแหวก”

แนวสันทรายขนาดใหญ่กลางทะเลเบื้องหน้า เราเดินนุ่มเท้ามาก น้ำใสวิ๊ง เล่นน้ำสบายใจเฉิบ ทั้งระหว่างเดินบนทรายกว้างใหญ่ เราต้องก้มมองพื้นให้ดี เพราะผืนทรายใต้น้ำทะเลปริ่มๆจะเห็นปลาดาวมากมาย แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ

เผลอแป็ปเดียวก็ถึงเวลาเดินทางกลับแล้ว ระหว่างนั่งเรือเข้าฝั่ง ถ้าใครมีโดรนในมือ หากนำขึ้นบินจะเห็นอีกหนึ่งความพิเศษของบ้านน้ำราบ นั่นก็คือ “เกาะรูปหัวใจ”

เกาะที่เต็มไปด้วยต้นโกงกาง มีรูปลักษณ์เหมือนหัวใจ เป็นเกาะกลางน้ำ ที่ต้องเห็นได้เมื่อถ่ายภาพในมุมสูงเท่านั้น แต่ถ้าเรานั่งเรือผ่านมองในระดับสายตา ก็จะเป็นแนวป่าโกงกางขึ้นอยู่หนาแน่นทั่วไปเท่านั้น ภาพที่เห็นทำเราใจพองโต

บอกตัวเองเลยว่าเสน่ห์ของบ้านน้ำราบ ดีงาม ต้องบอกต่อกันเลยทีเดียว ใครสนใจเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ Facebook กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนบ้านน้ำราบ

ชี้เป้าอาหารอร่อย เมืองตรัง

ตรังนอกจากมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อยอีกด้วย มาเมืองนี้นอกจากต้องซื้อของฝากอย่าง “ขนมเปี๊ยะซอย 9” ซึ่งมีหลากหลายไส้โดยเฉพาะ “ขนมเปี๊ยะไส้เผือกหอม” แป้งบางกรอบรสชาติเผือกผสมไข่เค็ม ละมุนลิ้น 

หรือ “หมูย่างเมืองตรัง” ร้านเด็ดอย่าง “หมูย่างเมืองตรังโกเภา” ที่ขายอยู่ในตลาดสดเทศบาลตรัง แนะนำทั้ง 2 ร้านต้องโทรจองก่อนแล้วที่นี่ยังมีร้านอาหารอร่อย และเก๋สุดๆ ในตัวเมืองตรังที่คุณไม่ควรพลาด ไปเช็คอินกันได้เลย

• OBCS

ใครชอบนั่งชิลล์ร้านคาเฟ่สุดชิคสไตล์มินิมอล แนะนำ OBCS : Optimum Balance Coffee Stores ร้านโทนสีขาวในบรรยากาศอินดอร์และเอ้าท์ดอร์ เสิร์ฟเครื่องดื่มหลากหลาย ไอศกรีม เค้ก และเบเกอรี่ หน้าตาดี เหมาะกับการจิบชากาแฟยามบ่าย หนีร้อนมาผ่อนคลายที่นี่

เมนูแนะนำเลยคือ ชาเขียวเย็น เข้มข้น กลมกล่อม Croffle Caramel Biscoff กรอบนอกนุ่มใน ฉ่ำคาราเมลเว่อร์ มาการองสีสวย

• เฉินเจียติ่มซำ

คอติ่มซำ แนะนำ เฉินเจียติ่มซำ ร้านอาหารจีนสไตล์โมเดิร์น ร้านนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ 07.00-16.00 น. มีเมนูเช้า และเมนูบ่าย ไปจนถึงอาหารจานเดียวให้เลือกทาน ที่นี่ฮ้อตมากกับการทานติ่มซำตอนเช้า

แนะนำฟองเต้าหู้ม้วนกุ้งทอด ที่มีกุ้งมาเป็นตัวๆ ทานคู่กับน้ำจิ้ม ที่มีกลิ่นเต้าหู้ยี้  ซาลาเปาอบไส้หมูแดง ฟองเต้าหู้ทอดสไตล์แต้จิ๋ว ทานกับน้ำเกลือ กรอบนอกเนื้อข้างในนุ่มมาก เกี้ยวซอสเสฉวน ต้องลอง

ที่นี่นอกจากอาหารแล้ว เมนูเครื่องดื่มก็มีหลากหลาย  โดยเมนูกาแฟสดเราสามารถเลือกระดับการคั่วได้ว่า จะคั่วกลาง หรือ คั่วกลางถึงเข้ม นอกจากนี้ยังมีเมนูพิเศษ อย่าง ชาหมูย่าง, ดอกท้อปราบเซียน, โบตั๋นแรกแย้ม เก๋หยอกใครเลยนะเนี่ย ชอบฟิลไหนก็เลือกได้เลย เพราะทั้ง 2 ร้านก็อยู่ใกล้ๆ กันแล้ว

หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,887 วันที่ 14 - 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2566