ใครเป็นสาวก “แฮร์รี่ พอตเตอร์” เราจะพาไปท่องโลกแห่งเวทย์มนต์ กันที่ “Hog’s Head Phuket” (ร้านหัวหมู) คาเฟ่กึ่งบาร์ ย่านถนนเยาวราช เมืองเก่าภูเก็ต ระหว่างที่เรากำลังอินกับตึกสไตล์ชิโนโปตุกีสอยู่ดีๆ พอเปิดประตูร้านเข้าไปเราจะพบกับความแปลกแหวกแนว ของ “คาเฟ่ธีมโลกแห่งเวทย์มนต์” บรรยากาศสลัวๆ ชวนขนลุก
ที่นี่เหล่ามักเกิ้ลทั้งหลาย จะสัมผัสได้ถึงโลกของพ่อมด-แม่มด ใน Hog’s Head Phuket ซึ่งยกตรอกไดแอกอนมาไว้ที่นี่แล้ว คาเฟ่กึ่งบาร์แนวลึกลับ ตั้งอยู่ในหมู่บ้านพ่อมดฮอกส์มี้ด
เจ้าของร้าน คือ Aberforth Dumbledore (พี่ชายของ ดัมเบิลดอร์) เอกลักษณ์ของร้านเราจะเห็นหัวหมูที่ถูกตัดวางอยู่บนเขียง แขวนอยู่เหนือบาร์ เป็นร้านที่เฮอร์ไมโอนี่ เรียกประชุมเหล่าสมาชิก กองทัพดัมเบิลดอร์มาประชุม
ร้านแห่งนี้มีของหายากจากทั่วสารทิศมาตกแต่งร้าน สะดุดตามากๆ หนึ่งในนั้น คือ Nimbus 2000 หรือไม้กวาดของแฮร์รี่ รุ่น Limited Edition ที่มีอยู่ 10,000 ชิ้นในโลก และ 1 ในนั้น อยู่ที่ร้านนี้
เมนูที่นี่ไม่ธรรมดา ถ้าจะให้เข้าถึงบรรยากาศจริงๆ ต้องสั่ง “เดวิล บัตเตอร์ บรู” หรือ Butter Beer ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ แต่หน้าตาเหมือนเบียร์เลย
หรือถ้าจะให้มาแบบอลังการ “หม้อปรุงยาพิษ” มีไซรัปถึง 3 รสชาติให้เราปรุงตามชอบแม้แต่เมนูชา ชามะลิ ก็รังสรรค์ออกมาเป็นเมนู “เลือดยูนิคอร์น” ชาพีช กลายร่างเป็นเมนู “คำสาบแม่ชี” ชากุหลาบ กลายเป็นเมนู “แม่มดดำ” ทานคู่กับเค้กคือฟินขั้นสุด
ใครจะดริ๊กค์แอลกฮอล์แนะนำให้มาช่วงเย็นๆ หรือค่ำๆ จะได้ฟิวบาร์เป็นสไตล์อังกฤษ ลึกลับ น่าค้นหา
ใครชอบทานไอศกรีมโฮมเมดพรีเมียมในแบบเอกลักษณ์สุดๆ พลาดไม่ได้กับ ร้านทอรี่ ไอศกรีม “Torry’s Ice cream” ใจกลางซอยรมณีย์ ถนนถลาง ของหวานที่นี่อร่อยมาก ยกนิ้วให้กับ Signature Ice cream ที่ผสมผสานรสชาติขนมท้องถิ่นของชาวภูเก็ต ครีเอดออกมาหลายเมนูหลายสไตล์
โดยเฉพาะ “TASTE OF PHUKET” เมนูฮอตฮิตมาทุกครั้งต้องสั่ง คือ “บี๊โกหมอย” ภาษาจีนฮกเกี้ยน “บี๊โก” แปลว่าข้าวเหนียว “หมอย” แปลว่าต้ม ร้านจะคัดสรรข้าวเหนียวดำพันธุ์ดี ต้มสดใหม่ทุกเช้า เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมกะทิ อัญชัญ ราดด้วยน้ำกะทิ รสเค็มตัดหวานพอดี เสิร์ฟในจานทองเหลือง
อีกเมนูคือ “โอ้เเอ๋วซอร์เบท์และถั่วแดง” ลักษณะเหมือนวุ้น ทานพร้อมไอศกรีมได้เท็กเจอร์เคี้ยวเพลินด้วยวุ้นโอ้เอ๋ว และถั่วแดง และตอนเราไปมี “โอ้เอ๋วส้มยูสุ” หรือจะเป็น ไอศกรีม พาย “กาหยี” (เม็ดมะม่วงหิมพานต์) “คาราเมลชีสเค้กพาย” นาทีนี้ยอมตามใจปากเลย
ส่วนใครชอบทานแต่ไอศกรีมเพียวๆ ไอศกรีมที่นี่ มี Inspiration จากผลไม้ ดอกไม้ เช่น ลิ้นจี่กุหลาบ สตรอเบอรี่เลม่อน และสับปะรดภูเก็ต เสิร์ฟสวยมาในลูกแก้วมังกร ได้ความสดชื่น คาเฟ่ไอศกรีมสไตล์วินเทจ ท่ามกลางบรรยากาศอาคารชิโนโปรตุกีสสีชมพูพาสเทล เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาด
เปลี่ยนบรรยากาศมาต่อกันที่คาเฟ่สไตล์จีนโมเดิร์น ย่านถนนพังงา เมืองเก่าภูเก็ต กับ ร้าน เถียน เถียน “Tian Tian Phuket Dessert Cafe” ร้านขนมหวานเล็กๆแต่คนก็รอที่จะต่อคิวกิน
ที่นี่มีทั้งขนมหวานและเครื่องดื่มหลากหลาย เมนูยอดฮิต คือ โอ้เอ๋ว ที่มีทั้งโอ้เอ๋วลิ้นจี่น้ำผึ้งมะนาว , โอ้เอ๋วยาคูลท์บลูเบอร์รี่,โอ้เอ๋วลำไย
ชานมเถียน เถียน,เมนูน้ำแข็งใส ก็มีหน้าให้เลือกใส่มากมาย ได้กินของหวานเย็นๆ ชื่นใจมากเลยขอบอก
ใครชอบทาน “เบเกิล” แนะนำให้มาเช็คอินความอร่อยกันที่ Have a Bagle day ร้านเบเกิลโฮมเมดแห่งแรกในภูเก็ต ร้านคาเฟ่เล็กๆสไตล์โฮมมี่ ย่านเชิงทะเล อ.ถลาง ที่เหล่า Bagle Lover ห้ามพลาด
ที่นี่มีขนมปังเบเกิล ให้เลือกมากถึง 20 รสชาติ มีทั้งเมนูคาว-หวาน ใครเป็นสายวีแกน ก็มีเมนูสำหรับสายเฮลท์ตี้โดยเฉพาะ อย่าง T.A.B. เบเกิลสูตรวีแกน ชอบมากกับอะโวคาโดบดสูตรโฮมเมดที่ท็อปปิ้งมาแบบเน้นๆ
อีกเมนูที่เราชอบมาก คือ Bacons & Homemade Pesto & Cheese เบเกิลที่สอดไส้ด้วยเบคอน ซอสเพสโต้สูตรโฮมเมด เราสัมผัสได้ถึงความหอมของโหระพา และชีสเต็มคำ ส่วนเบเกิลหน้าปลาแซลมอนก็ฟิน
ส่วนใครชอบรสสัมผัสแบบครีมมี่ ต้องเมนู Homemade Cream cheese with Bagel เนื้อสัมผัสกรอบนอกนุ่มหนึบของขนมปังเบเกิล กับชีสเยิ้มๆใช่เลย
ทานคู่กับกาแฟร้อน หรือกาแฟเย็นก็เข้ากันได้ดี โดยเมล็ดกาเฟที่นี่จะเป็นเมล็ดกาแฟแบบคั่วกลาง เป็นเมล็ดกาแฟสายพันธุ์ไทยจากเชียงราย คนรักเบเกิลต้องลอง
เอาใจสายอาร์ตที่กำลังอยากนั่งคาเฟ่ ท่ามกลางนิทรรศการศิลปะของศิลปินระดับโลก “Vincent Van Gogh” ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยลายเส้นที่มีสีสันและสดใสอันเป็นเอกลักษณ์ของแวนโก๊ะ แวะไปได้ที่ Tree O’Clock Gallery & Restaurant ย่านบางโจ อ.ถลาง
ล่าสุดได้ปรับโฉมคาเฟ่ลับแห่งนี้ ให้เป็นมากกว่าคาเฟ่ ด้วยการจัดแสดงนิทรรศการ “Van Gogh Memory Exhibition” จัดเต็มผลงานศิลปะที่มีชื่อเสียงของแวนโก๊ะกว่า 12 ภาพมาจัดแสดงในสไตล์ดิจิตอล อาร์ท
ว๊าวๆไปกับเทคโนโลยีอิมเมอร์ซีฟ ที่มาทำให้ผลงานของศิลปินดังระดับโลกกลับมามีชีวิต ทำให้เราได้สัมผัสถึงความสนุกสนานกับภาพศิลปะมากกว่าเดิม
ไม่ว่าจะเป็นภาพของแวนโก๊ะบนผนัง ที่พอเราแตะไปที่ภาพจากภาพขาวดำก็จะเปลี่ยนเป็นภาพสี รวมไปถึงภาพขนาดใหญ่หลายรูปที่เป็นภาพเคลื่อนไหว
อาทิ ผลงานขึ้นชื่ออย่าง The Starry night ทันทีที่เข้าไปแตะลูกไฟเล็กๆกลมๆสีเหลือง ก็จะขึ้นมาเป็นพลุสว่างไสวเป็นประกาย หรือบางภาพ เมื่อเราเข้าไปยืนใกล้ๆ เหมือนเราทะลุเข้าไปอยู่ในรูปนั้นเลยดูกลมกลืนกับภาพสุดๆ
ทั้งยังมีห้อง The Sunflower ที่มีดอกทานตะวันเหลืองอร่ามเต็มห้อง โดยการเข้าชมนิทรรศการจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ผู้ใหญ่ 890 บาท เด็กราคา 590 บาท จ่ายครั้งเดียวจะเข้าชมกี่ครั้งก็ได้ ซึ่งนิทรรศการแวนโก๊ะจะมีถึงวันนี้ 20 ก.พ.ปี2567
ภายในนิทรรศการจะมีคาเฟ่เล็กๆให้เราได้เลือกซื้อดริ้งก์ที่รังสรรค์โดยบาร์เทนเดอร์ที่มีโปรไฟล์ไม่ธรรมดา ที่ได้นำภาพวาดของแวนโก๊ะมาเป็นแรงบันดาลใจในการคลีเอดเครื่องดื่มทั้งม็อคเทลและค็อกเทล
ทานคู่กับขนมหวานที่เป็นซิกเนเจอร์เฉพาะที่นี่ ที่ทางผู้จัดงานได้ไปร่วมมือกับร้านขนมและเบเกอรี่ขึ้นชื่อในภูเก็ต สร้างสรรค์เมนูขึ้นมาขายเฉพาะที่นี่
ไม่ว่าจะเป็น ไอศกรีม 2 รสชาติจากร้าน Torry’s Ice cream ไปจนถึงคราฟท์ ช็อกโกเเลตจาก PARADAi Phuket และที่นี่ยังมีกิจกรรมเวิร์คช็อปเก๋ๆเช่น ทำโดนัท ทำเสร็จแล้วทานได้เลย ที่นี่ฟินทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่มาเลย
หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,937 วันที่ 5 - 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566