สำหรับปี 2566 นี้ เทศกาลตังโจ่ย หรือ เทศกาลไหว้ขนมบัวลอย ตรงกับวันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม ตั้งแต่โบราณกาลมา เทศกาลนี้ยังมีอีกชื่อเรียกว่า "เทศกาลฤดูหนาว" เนื่องจากเป็นวันเปลี่ยนเข้าสู่ฤดูหนาว เป็นวันที่พระอาทิตย์ส่องแสงสั้นที่สุด พระอาทิตย์อยู่ไกลไปทางทิศใต้ เงาของพระอาทิตย์จะทอดยาวที่สุด และเมื่อผ่านพ้นวันนี้ไปแล้ว พระอาทิตย์จะเริ่มโคจรตามปกติสู่ทางทิศเหนือ เวลากลางวันจะเริ่มยาวขึ้นตามลำดับ และนี่คือเทศกาลสุดท้ายของชาวไทยเชื้อสายจีนในรอบหนึ่งปีปฏิทิน
ไฮไลท์ของเทศกาลนี้ คือ การทำขนมบัวลอย หรือ “ขนมอี๋” มาไหว้ฟ้าดิน ปึงเถ่ากง ตี่จู่เอี้ย (เจ้าที่) เพื่อขอบคุณที่ได้ช่วยให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวสามารถดำรงชีวิตมาได้อย่างราบรื่นตลอด 1 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังเพื่อขอพรให้ช่วยคุ้มครองสมาชิกในครอบครัวต่อไปด้วย ใครมีเคราะห์อยู่ก็เชื่อว่าเมื่อไหว้แล้วจะทำให้หมดเคราะห์หมดโศก
ที่มาของประเพณีดังกล่าวมาจากการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในช่วงฤดูหนาวเพื่อให้คุ้มครองสัตว์เลี้ยง และขอพรให้พืชผลทางการเกษตรเจริญงอกงามได้ดี และผู้คนมีสุขภาพแข็งแรง
สำหรับ ของที่ใช้ในการไหว้ขนมบัวลอย นั้น ประกอบด้วย
ทั้งนี้ จำนวนของที่ใช้ในการไหว้อาจปรับเปลี่ยนไปตามความสะดวกและความเชื่อตามแต่ละท้องที่
ส่วนขนมบัวลอย หรือขนมอี๋ ที่ใช้ในการไหว้นั้น ทำมาจากแป้งข้าวเหนียวนวดกับน้ำต้มสุกจนเข้าที่และปั้นเป็นเม็ดกลม ๆ เล็ก ๆ นิยมผสมสีชมพู สีขาว เมื่อปั้นเสร็จก็นำไปต้มในน้ำเดือด คล้ายกับการทำบัวลอยของไทย แต่ขนมอี๋จะต้มในน้ำเชื่อมโดยใช้น้ำตาลทรายขาวหรือน้ำตาลทรายแดงแทนกะทิ ที่สำคัญจะต้องมีขนมอี๋ลูกใหญ่ที่เรียกว่า “อีโบ้” ใส่ลงไปในถ้วยขนมอี๋ที่จะไหว้ถ้วยละ 1 ลูกด้วย
ขนมบัวลอยถือเป็นขนมมงคลอีกชนิดหนึ่งของคนจีน สามารถใช้ในโอกาสสำคัญต่าง ๆ รวมทั้งในพิธีแต่งงาน
ในสมัยโบราณชาวจีนเรียกขนมบัวลอยว่า ฝูหยวนจื่อ (浮圆子) 浮 แปลว่า ลอย และ 圆子 แปลว่า ลูกกลม ๆ ต่อมาภายหลังเรียกว่า ทังถวน (汤团) 汤 แปลว่า น้ำแกง ส่วน 团 แปลว่า ทรงกลม หรือเรียกว่า ทังหยวน (汤圆) ซึ่งมีความหมายเหมือนกันและออกเสียงใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ อักษร 团圆 เมื่อรวมกันแล้วมีความหมายว่า การได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันของคนในครอบครัว ลักษณะกลมๆของขนม ยังหมายถึงความกลมเกลียวของคนในครอบครัวด้วย
แต่ในประเทศไทยอาจจะคุ้นเคยกับการเรียกชื่อขนมบัวลอยว่า ขนมอี๋ เนื่องจากเป็นการออกเสียงตามสำเนียงจีนแต้จิ๋วนั่นเอง
ชาวจีนให้ความสำคัญกับเทศกาลตังโจ่ยไม่แพ้วันตรุษจีน เพราะถือเสมือนเทศกาลสิ้นปี ผู้คนจะปิดร้านรวงและบ้านเรือน ทำบุญตามวัด หรือไหว้เจ้า