สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ที่ถนนสายเงียบสงัดเส้นหนึ่งใกล้จตุรัสกลาง เมืองซาเกร็บ ประเทศโครเอเชีย ซึ่งตั้งอยู่ในทวีปยุโรป มีพิพิธภัณฑ์ของเอกชนชื่อว่า Museum of Broken Relationships (พิพิธภัณฑ์แห่งความสัมพันธ์ที่แตกร้าว) จัดแสดงสิ่งของหลายพันชิ้นที่ได้รับบริจาคมาจากทั่วทุกมุมโลก โดยของหลายชิ้นเป็นสาเหตุที่ทำให้ คู่รัก กลายเป็น คู่ร้าง ขณะที่สิ่งของบางชิ้นในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ก็เคยเป็นของที่ระลึกในความสัมพันธ์เมื่อครั้งยังหวานชื่น
ดราเซน กรูบิสิค ผู้ร่วมก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ในปี 2549 บอกเล่าว่า มีของสะสมในพิพิธภัณฑ์รักร้าวนี้มากถึง 4,600 ชิ้น ซึ่งทางพิพิธภัณฑ์นำมาจัดแสดงเพียงราว 100 ชิ้นเท่านั้น
“มันไม่ใช่แค่สิ่งของ แต่มันคือเรื่องราวที่น่าสนใจ สร้างแรงบันดาลใจก็ได้ แต่บางครั้งก็น่าสะเทือนใจ” กรูบิสิคกล่าวว่า สำหรับเขา พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นเรื่องราวของความรัก ในมุมมองที่แตกต่างออกไป คือมุมหลังจากที่ความรักได้สิ้นสุดลง
ตัวอย่างสิ่งของที่ทางพิพิธภัณฑ์นำมาจัดแสดงนั้น มีทั้งเรื่องราวเบื้องหลังที่คลุกเคล้าความสุข ความเศร้า ความเหงา บางชิ้นก็ดูธรรมดาๆ แต่บางชิ้นก็ดูแปลกประหลาด เช่น ขาเทียมที่อดีตทหารผ่านศึกชาวโครเอเชียมอบให้กับพิพิธภัณฑ์ เพื่อเป็นสิ่งบันทึกความทรงจำดีๆของเขาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่เคยมีกับเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมที่เขาพบระหว่างเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งแน่นอนว่าขาเทียมดังกล่าว อยู่ยงคงกระพันกว่าความสัมพันธ์ครั้งนั้น
ชิ้นเศร้าก็มี เช่นชุดแต่งงานที่ผู้หญิงจากตุรกีบริจาคมา เธอระบุว่า ไม่มีโอกาสได้สวมใส่ชุดเจ้าสาวนี้ เพราะคนรักของเธอเสียชีวิตเพียง 1 เดือนก่อนจะได้เข้าสู่ประตูวิวาห์
อีกชิ้นเป็นขวาน ที่ชายคนหนึ่งบริจาคมา มันเป็นขวานที่เขาเคยใช้ทำลายเฟอร์นิเจอร์ของแฟนเก่าเมื่อคราวที่ความสัมพันธ์ร้าวฉาน และหญิงรายหนึ่งบริจาคหนังสือลดน้ำหนัก “I Can Make you Thin” ของผู้เชี่ยวชาญด้านการสะกดจิตชาวอังกฤษ พอล แมคเคนนา ที่เธอได้รับเป็นของขวัญจากอดีตคนรัก แต่สุดท้ายแล้วเขาทิ้งเธอไป หลังจากมอบหนังสือเล่มนี้ให้มา
"อย่าซื้อหนังสือเล่มนี้ให้คนรัก ถ้าคุณอยากให้ความสัมพันธ์อยู่ยั้งยืนยง" กรูบิสิคกล่าว
อีกชิ้นที่แปลก คือสะเก็ดแผล ที่ได้รับการบริจาคมาจากคนรักของผู้ประสบอุบัติเหตุเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ สะเก็ดแผลนี้มีอายุ 27 ปีแล้วและผู้ที่มอบมันให้กับพิพิธภัณฑ์ก็เป็นนักชีววิทยาที่ครั้งหนึ่งเคยหวังว่าจะใช้สะเก็ดแผลนี้ โคลนร่างคนรักขึ้นมาอีกครั้ง แต่ปัจจุบันเขาได้ล้มเลิกความคิดนั้นไปแล้ว
กรูบิสิค บอกว่า แม้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะจัดแสดงสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ที่จบสิ้นลง แต่เขาและผู้ร่วมก่อตั้งพิพิธภัณฑ์อีกคนหนึ่ง มองว่าพิพิธภัณฑ์นี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักล้วน ๆ “เราอาจจะมีมุมมองที่แตกต่างเกี่ยวกับความรักที่มันจบลง แต่หากเรามองโลกตามความเป็นจริงแล้ว ทุกเส้นทางของความรักมักจะมีจุดสิ้นสุดไม่วันใดก็วันหนึ่ง”
ข้อมูลอ้างอิง