หมุดหมายใหม่ของคนมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตสุดหรู คงหนีไม่พ้น “LV The Place Bangkok” คอนเซ็ปต์ใหม่ของ Louis Vuitton “หลุยส์ วิตตอง” ที่รวมประสบการณ์ กิน ช้อป เที่ยว ไว้อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2 ชั้น ภายใน ศูนย์การค้าเกษรอัมรินทร์ ที่กลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่กรุงเทพฯ ไปแล้ว
แค่หน้าตึกเราก็จะสะดุดตาไปกับดีไซน์ Facade รูปทรงเพชรขนาดใหญ่อันโดดเด่น ซึ่ง Louis Vuitton ประเดิมปักหมุดโปรเจ็กต์ครั้งแรกของโลก ที่รวมความลักชัวรีทั้ง รีเทล อาหาร คาเฟ่ และนิทรรศการ มาให้เราสัมผัส
ตั้งแต่ นิทรรศการ “Visionary Journeys” โดย OMA และ Partner Shohei Shigematsu ที่จะพาทุกคนไปสัมผัสมรดกล้ำค่าด้วยการจัดแสดงเรื่องราวการเดินทาง วิสัยทัศน์ และที่มาของ Louis Vuitton ซึ่งไม่เคยแสดงที่ใดมาก่อน
โดยผสมผสานเรื่องราวบริบทใหม่ทั้งประวัติศาสตร์ ตั้งแต่เรื่องราวของตระกูลวิตตองตั้งเเต่ชิ้นงานที่เป็นเเรงบันดาลใจ เเละดีไซน์ในยุคเเรกๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปเเบบของทรังก์ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ตัวอย่างของโมโนแกรมแคนวาสหลากหลายรูปแบบ รวมถึงชิ้นงานร่วมสมัย ที่จะเล่าเรื่องผ่านทางเดินเเบบ Trunkscape ซึ่งก็คือจุดเริ่มต้นแห่งการเดินทางที่นำทรังก์ 96 ใบมาเรียงต่อกันราวกับอุโมงค์ทางเดินที่ทอดยาวไปสู่เรื่องราวงานฝีมือและนวัตกรรม โดยเราสามารถเข้าชมนิทรรศการได้ฟรี
“คาเฟ่ Le Cafe Louis Vuitton” ในบรรยากาศอันรื่นรมย์ ผสมผสานดีไซน์องค์ประกอบของพืชพรรณธรรมชาติ และดีเทลที่ทันสมัยของ Louis Vuitton ตั้งแต่พื้นปาร์เก้ไม้ที่ปูเป็นลวดลายโมโนแกรม ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ในดีไซน์ที่ตีความจากคอลเล็กชั่น Objets Nomades
ทั้งยังเป็นคาเฟ่แห่งแรกที่ Louis Vuitton ได้พัฒนาสูตรขนมเองตั้งแต่เค้ก ทาร์ต พาร์เฟต์ และไอศกรีมแซนด์วิชหลากหลายรสชาติ
พร้อมตกแต่งรายละเอียดของเมนูต่างๆ ให้เป็นเอกลักษณ์ของ Louis Vuitton โดยขนมที่รังสรรค์ขึ้นมาเป็นพิเศษ เช่น Star Blossom Cake เป็นเค้กช็อกโกแลตรสละมุนผสมผสานคาราเมลเข้มข้น, Monogram Cake เค้กพิสตาชิโอได้ความหอมอ่อนๆ ของกลิ่นส้ม นอกจากนี้ยังมี Mango Sticky Rice Fizz เครื่องดื่มเย็นสดชื่นที่ได้แรงบันดาลใจจากข้าวเหนียวมะม่วงของไทย เครื่องดื่มราคาเริ่มต้นที่ 280 บาท ไอศกรีม 4 รส 1 พันบาท
“รีเทลสโตร์ Louis Vuitton” ภายในผสมผสานดีไซน์อันหรูหราเข้ากับการตกแต่งที่มีชีวิตชีวา ครอบคลุมพื้นที่ชั้นบนสุดเพื่อมอบประสบการณ์ช็อปปิ้งแบบเต็มอิ่ม
ที่สำคัญ ร้านแห่งนี้ยังนำเสนอกระเป๋ารุ่น Alma Nano Rainbow ใน 5 โทนสี เช่นเดียวกับเสื้อทีเชิ้ตในคอลเล็กชั่นสุภาพสตรี Cruise 2024 ใน 4 โทนสี และรองเท้าสนีกเกอร์สุภาพบุรุษ LV Trainer Upcycling ที่มีดีไซน์เอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร โดยวางจำหน่ายเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะที่นี่เพียงแห่งเดียวในโลกเท่านั้น
“GAGGAN at Louis Vuitton” ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง โดย Gaggan Anand เชฟอินเดียผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง มาสร้างสรรค์ประสบการณ์ในการรับประทานอาหารทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น เป็นร้านอาหารแบบไฟน์ไดนิ่งใช้โต๊ะรับประทานอาหารทำด้วยหินอ่อนจากอิตาลี รองรับได้ 10 โต๊ะ พร้อมทั้งนำเสนอเมนูประจำซีซั่นที่รังสรรค์พิเศษให้กับ Louis Vuitton ภายใต้คอนเซ็ปต์ “5S” ได้แก่ Sweet, Sour, Salty, Spicy และ Surprise
ตั้งแต่เมนูล็อบสเตอร์กับซอสที่ได้แรงบันดาลใจรสชาติแบบไทย ไปจนถึงสูตรเมนูเห็ดในแผ่นแป้งที่มีแรงบันดาลใจจากแพทเทิร์น Damier โดยส่วนผสมแต่ละชนิดจะเป็นดาวเด่นที่นำเสนอผ่านเมนูในแต่ละจาน ใครต้องการประสบการณ์อาหารสุดเอ็กซ์คลูซีฟ สามารถจองห้องส่วนตัว พร้อมทั้งชื่นชมศิลปะแห่งการทำอาหารได้อย่างใกล้ชิด
ที่นี่ฮอตฮิตมาก เปิดบริการ 10.00 น.-20.00 น. โดยเฉพาะคาเฟ่ เพราะเป็นสาขาแรกในไทย มีทั้ง Walk-in และ เปิดให้จองคิวแต่ตอนนี้คิวเต็มยาวถึงเมษายนแล้วด้วย ใครไม่อยากรอจองคิว ลอง Walk-in เผื่อจะได้ดื่มด่ำประสบการณ์สุดหรูแบบนี้
หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 3,973 วันที่ 10 - 13 มีนาคม พ.ศ. 2567